CITY CRACKER

เปิดเผย ใช้ฐานข้อมูล ไม่ปิดประเทศ: การจัดการวิกฤตโควิด-19 แบบฉบับเกาหลีใต้

เกาหลี เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ดูเหมือนว่าจะรับมือกับวิกฤติโควิด 19 ได้ดี แต่วันนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องการรับมือในภาพใหญ่ ที่คงมีหลายคน หรือข่าวหลายสำนักเสนอไปแล้ว

แต่จะรวบรวมเอาเรื่องเล็กๆ เป็นวิธีการที่หลายคนอาจไม่รู้ ที่สะท้อนถึงการรับมือโควิด 19 ของเกาหลี แบบประเทศอื่นลอกเลียนได้ยาก ตั้งแต่การจัดการเมื่อหน้ากากขาดตลาด ความตื่นตระหนก การปิดประเทศ เศรษฐกิจ ไปจนถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่เกาหลีกำลังเผชิญ

 

เมื่อหน้ากากขาดตลาด

ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม ประเทศเกาหลีใต้กลายเป็นข่าวใหญ่ของโลก ที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อ ทะยานขึ้นไปอย่างรวดเร็ว จากคุณป้าที่เป็น Super Spreader ที่โบสถ์ของลัทธิหนึ่ง แน่นอนว่า ผู้คนตกใจ ตื่นตระหนก หน้ากากอนามัยขาดตลาดในชั่วข้ามคืน

ภาพที่เห็นในวันนั้นคือ คนต่อคิวยาวเหยียด เพื่อซื้อหน้ากากอนามัยที่ร้านขายยาทุกร้าน และทุกร้านหน้ากากขายหมด รัฐบาลจึงออกประกาศจำกัดการซื้อหน้ากากอนามัยทันที โดยกำหนดให้ซื้อได้ คนละ 2 ชิ้น ต่อสัปดาห์ และซื้อในวันที่กำหนดเท่านั้น เช่น วันจันทร์ ให้ผู้ที่เกิดปีที่ลงท้ายด้วยเลข 1 และเลข 6 เช่น ปี 1971 1976 1981 1986 1991 … เท่านั้นซื้อได้ วันอังคาร ผู้เกิดปีที่ลงท้ายด้วย 2 และ 7 ซื้อได้ ไล่ไป จนถึงวันศุกร์ คือ 5 และ 0 ส่วนเสาร์อาทิตย์ ไม่มีการซื้อ-ขาย รอไป เพราะรัฐต้องจัดระบบโลจิสติก และขอเวลาหายใจ จัดหากันสักนิด

ถ้าใครสงสัยว่าแบบนี้เช้าไปซื้อที่หนึ่ง ตอนเย็นข้ามอำเภอไปซื้ออีกได้ไหม? คำตอบคือ เสียใจด้วยครับ ร้านขายยาทุกร้าน เขาเชื่อมระบบฐานข้อมูลออนไลน์อยู่ พอซื้อเสร็จ เขาก็ป้อนเลขประจำตัวประชาชน บอกระบบว่าซื้อแล้ว ต่อให้ข้ามจังหวัดไป ก็ซื้อไม่ได้

ระบบฐานข้อมูลนี้ เป็นระบบที่ใช้กันเป็นปกติกับระบบออกบิลเงินสด ที่สามารถเข้าถึงได้จากทุกร้านค้า เพื่อให้ประชาชนที่ใช้จ่ายด้วยเงินสด สามารถบันทึกให้สรรพากรรับรู้ ทำให้ฐานภาษีที่คำนวณจาก รายรับ รายจ่าย หักกันตามจริงเลย ไม่คิดเหมาเป็นหมวดๆ เหมือนหลายประเทศ ทำให้ประชาชนได้ประโยชน์ เพราะหามาได้เยอะ แต่ใช้จ่ายเยอะ ก็ลดภาษีได้ ส่วนร้านค้า ก็โกงรัฐไม่ได้ เพราะรายรับทุกวอน สรรพากรรู้หมด รู้แบบสดๆ รายวันเลยด้วย

เมื่อรัฐคุมความต้องการซื้อได้ งานที่เหลือก็คือการคุมฝั่งการขายอย่างเดียว แน่นอนว่าเมื่อมีฐานข้อมูลสุดยอดนี้แล้ว เขาก็ขยับเมาส์ไม่กี่คลิ๊ค สร้าง GIS Application ที่บอกตำแหน่งร้านขายยา และปริมาณหน้ากากที่เหลือในแต่ละร้านได้อีก ทำให้คนไม่ต้องไปต่อคิวรอ แถมบริหารชีวิตตัวเองได้สบาย สำหรับ เด็ก คนชรา หรือคนในครอบครัว ไม่สะดวกออกมาซื้อ ให้ถ่ายรูปสำเนาพาสปอร์ตออกมาซื้อแทนกันได้

หน้ากากที่ทางรัฐจัดหาให้ เป็นหน้ากากระดับคุณภาพ KF94 (Korean Filter) คือมาตรฐานของเขาเอง ที่ใช้กันฝุ่น PM2.5 ได้ และยังสามารถกันอนุภาคระดับ PM0.05-PM1.70 ได้ 94% นั่นคือหน้ากากนี้ มันยอดมากแล้ว ราคาชิ้นละ 1500 วอน หรือประมาณ 40 บาท ประชาชนซื้อเองนะครับ ไม่มีใครแจกให้

แม้ว่าแทบทุกครัวเรือน จะมีหน้ากากที่เหลือจากฝุ่นเหลืองประจำฤดูอยู่แล้ว แต่สถานการณ์หน้ากากไม่พอต่อการจัดสรร ก็เกิดขึ้นถึงเกือบ 2 สัปดาห์ ระหว่างนั้น ก็มีการรณรงค์ให้บริจาคหน้ากากให้คนที่ยังไม่มี และสำหรับคนที่ไม่มีความเสี่ยง ก็ใช้แค่หน้ากากผ้าได้ เหลือหน้ากากคุณภาพดีๆ ให้บุคคลากรทางการแพทย์ใช้ จนถึงวันนี้ คิวยาวๆ หน้าร้านยาก็ไม่มีเห็นอีกต่อไป

 

เกาหลีจัดการความตื่นตระหนกอย่างไร?

อย่างที่รู้กันว่า วิธีการจัดการความตื่นตระหนกของประชาชนนั้น มีสองแบบคือ แบบที่หนึ่ง ปิดข้อมูล ไม่ต้องรู้เยอะ รู้เยอะ ปัญหาเยอะ ให้งงๆ ไป หรือ แบบที่สอง เปิดข้อมูลมันให้หมด แล้วให้ความรู้ ตอนคำถามทุกข้อสงสัย สยบข่าวลือ ซึ่งเกาหลีใต้เลือกทางที่สอง

ข้อมูลว่าในเขตบ้านคุณมีใครติดบ้าง แล้วผู้ป่วยเดินทางไปที่ไหนบ้าง วันไหนบ้าง ถูกอัพโหลดขึ้นไปบนเว็บไซต์อย่างละเอียด พร้อมมีข้อความส่งมาทางมือถือตลอดว่าใกล้ๆ ตัวคุณ มีที่ไหนบ้างที่พบผู้ติดเชื้อ แล้วเขาไปที่ไหนใกล้คุณบ้าง ซึ่งแบบนี้ ก็ทำให้ประชาชนในย่านนั้น ทราบว่าร้านไหนต้องปิดทำความสะอาด ก่อนจะเปิดขึ้นมาใหม่ภายในไม่กี่วันให้หลัง ส่วนย่านไหน ไม่พบผู้ติดเชื้อ ก็จะรู้สึกปลอดภัย ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติได้มากกว่า

จนถึงทุกวันนี้ ห้างสรรพสินค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร สวนสาธารณะ สถานบันเทิง ยังเปิดกันเหมือนเดิม ทำให้เศรษฐกิจไม่กระทบรุนแรง ไม่ต้องชดเชยใครที่ได้รับผลกระทบ แม้ซูเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ คนเดินน้อยลง แต่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆ แถวบ้าน กลับขายได้เยอะขึ้น และยอดขายของออนไลน์ โตแบบก้าวกระโดด

เท่าที่ได้คุยกับคนเกาหลี ถ้าเดินถนน จะเห็นคนไม่ใส่หน้ากากประมาณ 1-2 % เท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนมีความรับผิดชอบ แต่ทุกคนต่างกลัวที่จะติดเชื้อ ซึ่งเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการใช้ชีวิต เช่น หากใครไม่ใส่หน้ากากเข้าลิฟต์ อาจไม่มีคนเข้าด้วย หรืออาจมีการด่าทอกันได้

 

เกาหลีใต้ไม่ปิดประเทศ

จนถึงวันนี้ เกาหลีไม่ได้ปิดประเทศ และไม่ได้บังคับให้คนไปกักตัวในที่ที่จัดไว้ แต่ใครมาจากประเทศเสี่ยง เขาให้กักตัวเอง พร้อมมีแอพพลิเคชั่นให้รายงานตัว และเมื่อมาถึงเกาหลี รัฐบาลจะมอบกล่องยังชีพให้กล่องนึง ข้างในมีอาหารแห้ง สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ถุงขยะ หน้ากากอนามัย และที่สำคัญคือ เทอร์โมมิเตอร์แบบใช้แล้วทิ้ง ทุกคนที่กักตัวเองต้องวัดไข้ และส่งผลรายงานทุกวันตลอด 14 วัน ถ้าไม่มีสถานที่กักตัว รัฐจัดให้ ทั้งรถ ทั้งห้อง แต่ต้องจ่ายเงินค่าที่พัก วันละประมาณ 3,000 บาท หรือกรณีมีไข้ ห้ามออกมาเอง ให้โทร 1339 จะมีรถมารับไปตรวจที่โรงพยาบาลทันที

ส่วนเรื่องการกักตุนสินค้า สินค้าขึ้นราคา หรือแอบกักตุนหน้ากาก ลองทำดูสิครับ ประชากรเกาหลีใต้ พร้อมจะแจ้งความด้วยระบบออนไลน์ แคปเจอร์ หน้าจอ ส่งตามช่องทางต่างๆ และรัฐเขาไม่รอช้า จัดการได้อย่างรวดเร็ว ลงโทษหนักมาก เพราะถ้าเพิกเฉย ละเลย ลำเอียง เขาพร้อมจะโกรธ และลุกฮือเป็นเรื่องใหญ่ได้ แล้วมีตาเป็นสับปะรดแบบนี้ จะมีใครกล้าทำไหมล่ะครับ

 

เมื่อการท่องเที่ยวไม่ใช่รายได้หลัก ผลกระทบทางเศรษฐกิจจึงไม่มากนัก

เท่าที่คุยกับคนเกาหลีหลายคน เขาคิดว่าเศรษฐกิจเกาหลี จะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดครั้งนี้ แต่ไม่มากเพราะการท่องเที่ยว ไม่ได้เป็นรายได้หลักของประเทศ เขามีอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ ทั้งเครื่องมือการแพทย์ ยา เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ จนถึงบริการ ก่อสร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ระบบบำบัดน้ำ ฯลฯ เป็นพระเอกในการหารายได้เข้าประเทศ มากกว่าการท่องเที่ยวหลายเท่า

ส่วนอุตสาหกรรมบันเทิงเสาหลักอีกเสาก็ได้รับผลกระทบบ้าง เช่น วงบอยแบนด์ BTS ยกเลิกคอนเสริต แต่ยังสามารถพบปะแฟนๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ แถมยังเล่นคอนเสริตผ่านช่องออนไลน์ของตัวเองได้ อุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็ปรับมาขาย แบบ VOD (Video On Demand)

 

แม้ว่าทั้งโลกจะชื่นชมเกาหลีในการจัดการโรคระบาดครั้งนี้ แต่บรรยากาศก็ยังไม่ดีขึ้น เพราะยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอยู่ โดยช่วงหลังมานี้ กลายเป็นคนเกาหลีที่มาจากต่างประเทศเป็นสัดส่วนผู้ติดเชื้อรายวันมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังพบการติดโรคเป็น Cluster ในไนต์คลับ ทำให้ต้องไล่ปิด เช็คบิลผู้หนีการกักตัวกันแทบทุกวัน

จังหวะข่าวร้ายการระบาดที่ มาเร็ว มาแรง ทำให้คนเกาหลีใต้ยังไม่กล้าที่จะใช้ชีวิตแบบปกติเท่าไหร่ งาน Exhibition งานกีฬาที่รวมกลุ่มเยอะๆ ยกเลิกหมด ซูเปอร์มาร์เก็ตคนเดินน้อย คนปรับตัวใส่หน้ากากกันเป็นกิจวัตร ทุกวันนี้โรงเรียนยังไม่สามารถเปิดเทอมได้มาเดือนกว่าแล้ว คงต้องเรียนออนไลน์กันอีกพักใหญ่

แม้จะได้รับเสียงวิจารณ์มากมายกับการไม่ปิดประเทศ ไม่ปิดธุรกิจ แต่การจัดการของรัฐเป็นการรักษาสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ กับการหยุดการระบาด เขาก็เน้นไปที่การจัดการด้วยฐานข้อมูล และการให้ข้อมูลกับประชาชนที่ควรได้รับรู้อย่างครบถ้วน

การมีองค์ประกอบอย่างประชาชนเกาหลี ที่มีนิสัยประจำชาติคือ มีความไวต่อความไม่เป็นธรรม โกรธง่าย ใจร้อน ไม่ค่อยประณีประนอม ทำให้เขาพร้อมจะแจ้งตำรวจเมื่อเจอคนหนีการกักตัว พร้อมรายงานเมื่อเจอการกักตุนสินค้า หรือสินค้าขึ้นราคา มาพร้อมกับภาพรัฐที่พร้อมจะบังคับใช้กฎหมาย เพื่อจัดการผู้กระทำผิดแบบไม่เว้นหน้า

วัฒนธรรมคนเกาหลีใต้เวลาทักทาย เขาไม่ค่อยสัมผัสตัวกันใกล้ชิด เหมือนชาติตะวันตก เกาหลีใช้การโค้ง หรือจับมือทักทายเป็นหลัก ใครกอดทักทายกันก็แปลก การอยู่อาศัยแบบคนเมืองที่ไม่ค่อยปฏิสัมพันธ์กันง่ายๆ แม้แต่ห้องอพาร์ต์เม้นท์ข้างๆ ก็อาจลดโอกาสแพร่เชื้อได้ บริษัทผู้ผลิตยา เครื่องมือการแพทย์ สัญชาติเกาหลีที่มีมากมาย พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ ยันพัฒนาและผลิตชุดตรวจได้ออกมาอย่างรวดเร็ว รัฐบาลทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ ที่ลงทุนกับฐานข้อมูลประชาชนมานานหลายสิบปี ถูกนำมาบริหารสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

 

ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ การจัดการแบบเกาหลีใต้ คงยากที่ประเทศอื่นจะเลียนแบบได้เป๊ะๆ เพราะมีข้อจำกัด ทรัพยากร และวัฒนธรรมต่างกันไป

 

Illustration Montree Sommut
Share :