CITY CRACKER

Mock-up Park สวนสาธารณะฉบับทดลอง หลังวัดหัวลำโพง

เป็นที่รู้กันดีว่าสวน หรือพื้นที่สีเขียวสาธารณะในบ้านเรานั้นแสนจะน้อย แถมสวนใหญ่ๆ ที่มี เช่น สวนลุม สวนรถไฟ สวนจตุจักร ก็ใช่ว่าจะเข้าถึงกันได้ง่ายๆ สวนเหล่านี้ไม่ได้กระจายอยู่ทั่วทุกมุมเมืองชนิดที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้ การจะไปสวนสักครั้งก็เลยดูช่างยากเย็น ทั้งที่ใครๆ ก็อยากจะเข้าถึง

 

เวลาพูดเรื่องพื้นที่สีเขียว เรามักจะใช้เกณฑ์จาก WHO หรือองค์การอนามัยโลก ในการอ้างอิงถึงพื้นที่สีเขียวของแต่ละคน หากใช้เกณฑ์นี้กทม. ของเราก็มีพื้นที่สีเขียวต่อคนประมาณ 6.9 ตารางเมตร แต่ล่าสุด WHO ก็ได้ยกเลิกเกณฑ์นี้ไป เนื่องจากไม่สามารถวัดผลที่แท้จริงได้ เพราะต่อให้มีพื้นที่ต่อคนเยอะ ก็ไม่สามารถวัดว่าทุกคนเข้าถึงพื้นที่สีเขียวนั้นได้จริง UN habitat เลยออกเกณฑ์ใหม่เรื่องระยะการเข้าถึงพื้นที่สีเขียวขึ้นมาใหม่ว่า พื้นที่สีเขียวนั้นควรเข้าถึงได้ในระยะ 400-800 เมตร หรือ 5- 10 นาที

กรุงเทพมหานครของเรา มีพื้นที่ต้นไม้ทั้งหมด 17 % ข้อมูลอ้างอิงจากฐานข้อมูลของสำนักสิ่งแวดล้อม คัดกรองเฉพาะสวนที่สามารถเข้าถึงได้โดยอิสระ พบว่าในกทม. มีสวนสาธารณะที่อยู่ในระยะเดิน 5 นาที อยู่ที่ 13.1 % ส่วนในระยะ 10 นาที มีทั้งหมด 32.5 % แต่ทางกทม.เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ  มีความพยายามในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเราชาวกทม. 13 % ที่เข้าถึงได้ ให้เป็น 30 % ภายในปี 2030

ล่าสุดกทม. ได้ร่วมกับภาคประชาชน อย่างโครงการ We! Park ที่เป็นแพลตฟอร์มในการพัฒนาพื้นว่างขนาดเล็กให้กลายเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งตอนนี้โครงการนำร่อง บริเวณหลังวัดหัวลำโพง ก็ได้มีการสร้างสวนจำลอง (Mock up Park) ให้คนได้ลองใช้ ก่อนที่จะนำความคิดเห็นหลังทดลองมาพัฒนาเป็นแบบเพื่อสร้างจริงต่อไป

 

สร้างสวนสาธารณะอย่างยั่งยืน

ในการพัฒนาพื้นที่ว่าง บริเวณซอยหน้าวัดหัวลำโพง เขตบางรัก ให้กลายเป็นสวนสาธารณะที่ยั่งยืน ทางโครงการ we! Park  จึงเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อให้คนในพื้นที่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน  โดยเริ่มจากการสอบถามความคิดเห็นว่าอยากให้สวนสาธารณะเป็นแบบไหน หลังจากทำกระบวนการร่วมกันหลายครั้ง ก็พบว่าความคิดเห็นนั้นค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งเชิงบวกและเชิงลบ ทาง We! Park เลยสร้าง  Mock up Park มาให้ทุกคนได้ลองใช้กันจริงๆ

“ตอนที่เรามาลงความเห็นกัน อาจไม่ใช่ทุกคนที่ว่างมาลงความคิดเห็นสวนจำลองนี้จะช่วยให้คนได้ทดลองใช้ ทดลองเห็นจริงๆ และเมื่อครบกำหนด 7 วัน หรือมากกว่านั้นเราก็จะไปพูดคุยกับเขาอีกครั้งว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีอะไรที่อยากให้ปรับปรุงแก้ไข เราก็จะนำความเห็นตรงนั้นมาปรับใช้ก่อนที่จะสร้างสวนจริงๆ ” ยศพล บุญสม ผู้จัดการโครงการ  We! Park กล่าว

นอกจากจะเน้นการมีส่วนร่วมในเชิงความคิดแล้ว วันที่ทำสวนจำลอง ยังมีความร่วมมือร่วมใจจากทางกทม. ที่นำต้นไม้มาลง และมีอาสาสมัคร และชาวบ้าน มาช่วยกันทาสี วางอิฐ ทำให้สวนนี้สำเร็จขึ้นมา และเป็นสวนจำลองให้ผู้คนได้มาลองใช้กัน

“ผมว่ามันน่าจะเป็นสวนแรกๆ ที่จะมาจากการระดมทุนจากคนทั่วๆ ไป ที่ทุกคนสามารถลงขันได้ ในวันที่สร้าง Mock up park ก็เป็นเหมือนการจำลองว่าถ้าสวนจริงๆ เรามาช่วยกันปลูกต้ไนไม้ได้ไหม เอาเก้าอี้มาได้ไหม เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของร่วมกัน เราก็อยากให้ทุกคนได้มาช่วยกัน เพราะสวนนี้มันเป็นสเกลเล็กๆ  ขนาดไม่ถึง 1 ไร่ ก็น่าจะพอช่วยกันได้”

ทางแกนนำชุมชนหลังวัดหัวลำโพงที่มาช่วยกันทำสวนจำลองนี้ก็กล่าวว่าหากบริเวณนี้สร้างเป็นสวนขึ้นมาก็จะทำให้ภูมิทัศน์ดีขึ้น  “ถ้ามีสวนมันก็เจริญหู เจริญตา เล็กๆ น้อยๆ คนก็ต้องเข้ามาใช้ จริงๆ ประเด็นการใช้-ไม่ใช้อาจจะไม่สำคัญ แต่อย่างน้อยมันก็สบายหูสบายตา และสภาพอากาศมันก็น่าจะดีขึ้น  เราก็ได้ช่วยเสริมความคิดเห็นลงไปบ้าง มาช่วยๆ กันดู”

 

City Cracker เองก็หวังว่าโครงการนำร่องนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเราชาวกรุงเทพฯ และในอนาคตเราก็คงจะได้มีพื้นที่สีเขียวเพิ่มขึ้นและสามารถเข้าถึงได้ในระยะ  5- 10 นาทีมากขึ้น

Share :