CITY CRACKER

Pet Friendly City องค์ประกอบและประโยชน์ของเมืองที่ดีต่อเหล่าเจ้านาย

เราอยู่ในยุคที่คนไม่อยากมีลูก กลับกันเราเห็นภาพของครอบครัว คนรักที่มีสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว ในช่วงโควิดที่ผ่านมาตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงเป็นหนึ่งในไม่กี่ธุรกิจที่โตสวนกระแสเศรษฐกิจที่หยุดชะงักลง เมื่อเหล่าเจ้านายกลายเป็นองค์ประกอบใหม่ของครอบครัว เมืองที่ดี ที่มองเห็นเหล่าสิ่งมีชีวิตสี่ขาเหล่านี้ในพื้นที่ควรมีหน้าตาอย่างไร หรือในทางกลับกันเมืองเองสามารถใช้ประโยชน์จากกระแสการเติบโตนี้ได้อย่างไร

สัตว์เลี้ยงถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งของครัวเรือน ถ้านับกันจริงๆ สัตว์เลี้ยงก็มีสถานะเป็นสมาชิกในครอบครัวมาตั้งแต่ยุคโบราณไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงสุนัข แมว หรือนก มีงานศึกษาพูดถึงความสำคัญของสัตว์เลี้ยงที่ส่งผลต่อตัวย่านเองที่ทำให้ย่านมีความปลอดภัยขึ้น หรือบางครั้งสัตว์เลี้ยงก็ทำหน้าที่เป็นเพื่อนให้กับครอบครัวทั่วไปและในกลุ่มที่มีความเปราะบางพิเศษ ช่วยส่งเสริมพัฒนาการในเด็กและผู้สูงอายุ ช่วยให้ผู้พิการใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น สัตว์เลี้ยงจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต บางเมืองใหญ่โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศยุโรป เราจะเห็นภาพของสัตว์เลี้ยงที่เดินเคียงข้างผู้คนอยู่ในทุกพื้นที่ของเมือง ทั้งขนส่งสาธารณะ ในสวน ในห้าง และในพื้นที่ต่างๆ

แน่นอนว่าเมื่อเมืองมองเห็นสมาชิกสี่ขาหรือกี่ขาก็ตามว่าเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของผู้คน แนวคิดเรื่องเมืองที่เป็นมิตรต่อสัตว์ (Pet Friendly City) จึงเป็นมิติสำคัญในการพัฒนาและสร้างสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการและความเปลี่ยนแปลงของครอบครัวและความสัมพันธ์ของผู้คน เราจะเห็นองค์กรที่ตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนให้เมืองเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เช่นกลุ่ม Better City for Pet หรือการที่บริษัทออกแบบเริ่มวางแนวทาง เช่น ลักษณะของเมืองที่ดีต่อสัตว์เลี้ยงของ Nashville Civic Design Center ที่ให้เกณฑ์สาธารณูปโภคของเมืองผ่าน 4 องค์ประกอบในการประเมินว่าเมืองๆ นั้นดีต่อสัตว์เลี้ยงหรือไม่ หรือการที่สื่อต่างๆ เริ่มมีการจัดอันดับเมืองที่ดีต่อสัตว์เลี้ยง ต่อสุนัขของเมือง เป็นต้น
การประเมินหรือจัดอันดับเมืองนำไปสู่การตัดสินใจทั้งในแง่ของการย้ายที่อยู่และการเดินทางท่องเที่ยวซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจ นอกจากเรื่องของธุรกิจแล้ว เมืองที่มองเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากมนุษย์ก็อาจนำไปสู่ประโยชน์ในการพัฒนาเมืองและพื้นที่เมืองที่ส่งผลกลับมาสู่คุณภาพชีวิตของผู้คนด้วย เช่น ผู้คนสามารถเลี้ยงสัตว์ได้สะดวกขึ้น เมืองที่ออกแบบเพื่อสัตว์เลี้ยงอาจเน้นกิจกรรมกลางแจ้งและพื้นที่ภายนอกซึ่งก็อาจส่งผลย้อนกลับด้านสุขภาพ หรือสาธารณูปโภคบางส่วนที่เน้นส่งสัตว์เลี้ยงกลับสู่ครัวเรือน เช่น ศูนย์พักพิง ระบบและเมืองที่มองเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็อาจนำไปสู่การลดปัญหาเมืองอย่างสัตว์จร ปัญหาสุขอนามัย และความปลอดภัยต่อไป

 

ศูนย์พักพิง และระบบบ้านเพื่อสัตว์เลี้ยง

เมืองที่ดีต่อสัตว์เลี้ยงด้านหนึ่งคือเมืองที่มองเห็นสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ที่ใช้เมืองร่วมกันกับเรา ดังนั้นสาธารณูปโภคพื้นฐานสำคัญคือพื้นที่เพื่อการช่วยเหลือพักพิง (animal shelter) ซึ่งศูนย์พักพิงเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่ที่รับฝากเท่านั้น แต่เป็นโครงข่ายระบบที่เมืองกำลังเข้ามาร่วมดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์ในเมือง ระบบศูนย์พักพิงจะมีความสัมพันธ์ต่อเนื่องกับการหาบ้านและส่งต่อสัตว์เลี้ยงกลับเข้าสู่พื้นที่ครัวเรือนหรือ pet housing ซึ่งสาธารณูปโภคทั้งศูนย์พักพิงและพื้นที่ส่งต่อจัดหาบ้านให้สัตว์เลี้ยงมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ที่นำมาซึ่งความเข้าใจทั้งความสัมพันธ์และความรับผิดชอบในการเลี้ยงสัตว์ การช่วยเหลือครัวเรือนในการดูแลสัตว์เลี้ยง การส่งต่อสัตว์เลี้ยง หรือบริการสัตว์เลี้ยงไปยังพื้นที่จำเป็น เช่น โรงพยาบาลและกลุ่มผู้ที่มีความต้องการพิเศษ

 

ขนส่งสาธารณะที่สัตว์เลี้ยงใช้ได้

ประเด็นเรื่องขนส่งสาธารณะหรือกระทั่งพื้นที่สาธารณะที่นับรวมสัตว์เลี้ยงยังค่อนข้างใหม่สำหรับบ้านเรา แต่ในเมืองใหญ่ ขนส่งสาธารณะส่วนใหญ่จะเปิดให้ผู้ใช้บริการนำสัตว์เลี้ยงร่วมโดยสารไปด้วยได้ โดยการเปิดให้สัตว์เลี้ยงขึ้นขนส่งสาธารณะได้นั้นก็ยังคงมีข้อถกเถียง เช่น เรื่องความสะอาด ความรับผิดชอบ และการแบ่งพื้นที่สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกใจกับสัตว์ เช่น สุนัขหรือแมว แต่ด้านหนึ่งการเปิดขนส่งสาธารณะให้สัตว์เลี้ยงขึ้นนั้นก็สะท้อนให้เห็นความครบวงจรของเมือง คือทำให้คนทุกกลุ่ม ในกรณีนี้คือกลุ่มที่มีสัตว์เลี้ยงสามารถเดินทางในเมืองได้โดยไม่ผูกมัดกับการมีหรือไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ในมิติของเมืองที่ลดความสำคัญของรถยนต์ลง รวมถึงเมืองที่มองเห็นความหลากหลายและวิถีชีวิตใหม่ ขนส่งสาธารณะเพื่อสัตว์เลี้ยงก็อาจเป็นข้อพิจารณาสำคัญประการหนึ่ง

 

สวนสาธารณะและพื้นที่สาธารณะของผู้คนและสัตว์เลี้ยง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วผู้ว่าฯ กทม. เพิ่งประกาศให้สัตว์เลี้ยงเข้าสวนสำคัญบางแห่งของกรุงเทพฯ ได้ นับเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาและอาจเปิดจินตนาการและกิจกรรม รวมถึงการออกแบบสวนที่ย้ายจากมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ไปสู่การใช้สวนและพื้นที่สาธารณะที่มีสัตว์เข้ามาเป็นเงื่อนไขหนึ่ง ในภาพรวมสวนที่ดีกับสัตว์ก็ดีกับคนด้วย มิติที่เรียบง่ายที่สุด สวนที่สัตว์จะสนุกสนานไปได้คือสวนที่มีความใกล้ชิดกับธรรมชาติซึ่งก็เป็นกระแสการออกแบบสวนสาธารณะร่วมสมัย จากทางเดินโล่งๆ ที่ปูลาดสำหรับการเดิน สวนเรียบๆ อาจปรับไปสู่สวนที่คล้ายป่ามากขึ้น มีทางเดินธรรมชาติ มีพืชพรรณที่อาจคำนึงเรื่องความปลอดภัยไปพร้อมๆ กับความหลากหลายทางชีวภาพ นอกจากนี้ก็อาจมีพื้นที่ปลอดสุนัข มีสาธารณูปโภคจำเป็นอื่นๆ สำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น สายจูง พื้นที่ขับถ่ายและจัดการของเสีย

การมีสวนและพื้นที่สาธารณะที่คิดเผื่อสัตว์เลี้ยง รวมถึงพื้นที่เมืองที่เอื้อต่อเหล่าสัตว์เลี้ยงก็ช่วยลดความจำเป็นของการมีพื้นที่บ้าน เพิ่มโอกาสในการเลี้ยงสัตว์ได้ เช่น ในเมืองของยุโรปเช่นปารีสที่แม้ว่าผู้อยู่อาศัยจะอยู่ในอพาธเมนต์ แต่ก็สามารถนำสัตว์เลี้ยงออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้ ในทางกลับกันพื้นที่สาธารณะเองก็กลับมีความคึกคักขึ้น ด้วยสัตว์เลี้ยงจะยิ่งทำให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันมากขึ้น เมืองก็อบอุ่นนุ่มนวลมากขึ้น

 

Dog Park-Pet Park

นอกจากพื้นที่สาธารณะและสวนสาธารณะที่อาจเปิดและมีสาธารณูปโภคสนับสนุนสัตว์เลี้ยงแล้ว สวนหรือพื้นที่สาธารณะสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะพวกสวนสุนัขที่อาจไปประกอบอยู่กับสวนอื่นๆ หรือเป็นสวนขนาดเล็กในพื้นที่ชุมชน สวนเหล่านี้จะมีการออกแบบที่เฉพาะเจาะจง เน้นรองรับกิจกรรมและพัฒนาการของสุนัข บางพื้นที่อาจจัดพื้นที่เฉพาะไว้ให้เจ้าของสามารถปล่อยสัตว์เลี้ยงวิ่งเล่นได้โดยไม่มีสายจูง เช่น สวนเทียนทะเลพัฒนาพฤกษาภิรมย์ Dog Park ย่านบางขุนเทียน ที่มีทั้งลู่วิ่ง สนามหญ้า และลานทรายสำหรับน้องหมาให้สามารถไปทำกิจกรรมได้ในพื้นที่เฉพาะของตัวเอง

 

ชุมชนที่เป็นมิตรกับสุนัขและแมวจร

มีงานวิจัยระบุว่าชุมชนที่มีสุนัขจะลดอาญชกรรมลงได้ หรืองานศึกษาที่บอกว่าเจ้าของสุนัขและการครอบครองสุนัขจะเชื่อมโยงกับชุมชนและเพื่อนบ้านได้ดีขึ้น ในทางกลับกันแมวจรที่เราเจอแล้วถ่ายรูปอันที่จริงก็อาจมีปัญหาทั้งสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของตัวแมวจรเองไปจนถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศของเมือง ดังนั้นชุมชนที่มองเห็นสัตว์อื่นอาจประกอบขึ้นจากสาธารณูปโภคหลายด้านตั้งแต่พื้นที่ที่สนับสนุนสัตว์เลี้ยงของชุมชน การมีสวนขนาดเล็กสำหรับเจ้าของและสัตว์เลี้ยง การปรับที่จอดรถเป็นจุดนั่งพักและพื้นที่สีเขียวที่กระจายตัวออกไป หรือการมีโครงการเล็กๆ เช่น สาธารณูปโภคที่คิดเผื่อทั้งสุนัขและแมวจร งานออกแบบที่ให้ที่พักพิงชั่วคราว พื้นที่สำหรับอาหารซึ่งอาจนำไปสู่การช่วยเหลือสัตว์และนำกลับไปสู่บ้านเรือนอีกครั้ง

 

ชายหาด แสงแดดและพื้นที่สาธารณะอื่นๆ

ข้อดีของการมองเห็นสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ เมือง คือการที่เมืองนั้นๆ มองเห็นพื้นที่ธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้งที่หลากหลายขึ้น นอกจากสวนแล้ว เมืองที่มีเหล่าสัตว์เลี้ยงออกมาวิ่งเล่นรับแสงแดดก็จะมีพื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหว และส่งผลดีทางกายภาพรวมถึงเป็นกิจกรรมสันทนาการ เราอาจมีชายหาดไม่ว่าจะเป็นชายหาดจริงๆ หรือชายหาดจำลอง มีพื้นที่กิจกรรมทางน้ำ สวนและพื้นที่สาธารณะที่มีสีสันรูปแบบอื่นๆ เช่น ทุ่งหญ้า เนิน เป็นพื้นที่ที่ที่แต่งแต้มเมืองให้สดใสขึ้นด้วยแสงแดดแหละเหล่าสิ่งมีชีวิตสี่ขาที่มีชีวิตชีวา

 

ภาคธุรกิจที่นับรวมสมาชิกใหม่

พื้นที่สุดท้าย นับว่าเป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างปรับตัวก่อน คือกลุ่มธุรกิจที่เริ่มมองเห็นสัตว์เลี้ยงเป็นองค์ประกอบหลักของครอบครัว รวมถึงมองเห็นวิถีชีวิตและการจับจ่ายที่มีเจ้าสิ่งมีชีวิตสี่ขาเป็นศูนย์กลาง เช่น เราจะเริ่มเห็นห้าง เห็นศูนย์การค้าที่มีกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องและมีการออกแบบพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ การมีพื้นที่ภายใน-ภายนอกอาคารและสาธารณูปโภคอื่นๆ เช่น รถเข็น รวมถึงการออกแบบตัวพื้นที่เองที่เน้นการแบ่งโซนของผู้ที่มีสัตว์เลี้ยง และกลุ่มคนที่อาจจะขออยู่ห่างๆ ให้ทั้งสองกลุ่มอยู่ร่วมในพื้นที่เดียวกันได้อย่างไม่เคอะเขิน การปรับตัวของภาคธุรกิจอาจเป็นตัวอย่างการปรับตัวระดับเมืองในระยะต่อมาได้ เช่น เมืองที่ดี ถนนหนทางที่ดีต่อสัตว์เลี้ยงและกลุ่มผู้มีสัตว์เลี้ยงควรจะเป็นอย่างไร ความต้องพิเศษ ความปลอดภัย หรือพื้นที่ให้บริการอื่นๆ ระบบขนส่ง การสาธารณสุขและพื้นที่สันทนาการ

อ้างอิงข้อมูลจาก
bettercitiesforpets.com
dailypaws.com
mars.com
hepper.com

 

Illustration by Montree Sommut
Share :