CITY CRACKER

เมื่อบุรีรัมย์ทำ Predator Arena คุยเรื่องเกม-กีฬาและความก้าวหน้าของเมือง กับไชยชนก ชิดชอบ

บุรีรัมย์เป็นเมืองใหญ่ที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากการเป็นเมืองทางผ่าน สู่การเป็นเมืองที่มีความคึกคักและก้าวหน้าแทบจะไม่แพ้กรุงเทพฯ ในแง่การเป็นศูนย์กลางของสันทนาการ เช่นสโมสรฟุตบอล ไปจนถึงสนามแข่งรถ บุรีรัมย์ดูจะกลายเป็นเมืองที่มีความโดดเด่นกว่ากรุงเทพฯ เมืองหลวงของเราด้วยซ้ำ

 

ภายใต้การนำของเนวิน ชิดชอบ ทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถนำบอลไทยให้ก้าวขึ้นสู่การเป็นทีมระดับโลกได้ หนึ่งในผลของความสำเร็จระดับโลกไม่ได้เกิดขึ้นจากสโมสรเพียงลำพัง แต่เกิดจากกลยุทธ์การพัฒนาที่รวมเอาชาวบุรีรัมย์และเมืองบุรีรัมย์ผสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นวัฒนธรรมบุรีรัมย์แบบใหม่ จากตัวตนเดิม จากเมืองปราสาทหิน กลายเป็นเมืองแห่งความทันสมัย คนบุรีรัมย์กลายเป็นแฟนฟุตบอล เกิดสนามช้างอารีนา สนามแข่งรถมาตราฐานโลกขึ้น

จากการบุกเบิกของรุ่นพ่อ ส่งต่อมาจนถึงรุ่นลูก จากการวางเรื่องกีฬาไว้ เมื่อนิยามของคำว่ากีฬาเริ่มหมุนตัวไปสู่อีสปอร์ต ‘ไชยชนก ชิดชอบ’ จึงเป็นหัวหอกสำคัญในการผลักดันทีมและการพัฒนาของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปสู่โลกของอีสปอร์ต และแน่นอนว่า ในนามบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อก้าวเข้าสู่วงการเกมแล้ว ย่อมต้องทำในปรัชญาเดิม คือการสร้างวัฒนธรรม ไปจนถึงสร้างองค์ประกอบโดยรอบที่ส่งเสริมให้กีฬาอีสปอร์ตกลายเป็นวัฒนธรรม กลายเป็นความเข้าใจร่วมกันที่คนบุรีรัมย์พร้อมจะสนับสนุน

การพัฒนาอีสปอร์ตของบุรีรัมยจึงไม่ได้หยุดแค่การสร้างทีมเท่านั้น แต่ยังมองเห็นความต้องการอื่นๆ ที่มาส่งเสริมการบ่มเพาะนักกีฬาและนำพาคนไทยขึ้นสู่วงการอีสปอร์ตในระดับโลก นับตั้งแต่การมีอีสปอร์ตอารีนา สนามแข่งขันพร้อมอุปกรณ์ที่จำเป็น ตัวสนามนอกจากจะนำไปสู่การฝึกซ้อมแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศและยกระดับอีสปอร์ตให้กลายเป็นกีฬาจริงจัง มีระบบโรงเรียนฝึกสอน ไปจนถึงการสร้างทัวร์นาเมนต์ ในภาพรวมเราจึงเริ่มเห็นวัฒนธรรมอีสปอร์ต เห็นมุมมองของคนบุรีรัมย์ที่ก้าวหน้า เห็นเมืองที่มีสาธารนูปโภคแบบใหม่ เมืองที่ผนวกโลกดิจิทัลเข้าสู่สันทนาการและความสัมพันธ์ของผู้คนในรูปแบบใหม่ๆ เราเริ่มเห็นครอบครัวที่ไปชมการแข่งขันอีสปอร์ต เห็นความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มีเกมหรือโลกดิจิทัลเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ เห็นอนาคตแบบใหม่ๆ ในความก้าวหน้าและการเป็นนักกีฬาอาชีพ

 

 

ทำไมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดถึงก้าวเข้าสู่วงการอีสปอร์ต

พอเราอยู่ในอุตสาหกรรมฟุตบอล แล้วประสบความสำเร็จได้ในระดับหนึ่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเองก็อยากจะกระจายฐานแฟนของเราให้มากขึ้น จากแฟนฟุตบอลเข้าไปในคอมมูนิตี้อื่นๆ คือเรามีแฟนฟุตบอลมาก และเราก็มีแฟนๆ เป็นคนบุรีรัมย์เยอะ แต่ยังมีคนอีกหลายกลุ่มที่ผมเรายังเข้าไปไม่ถึง หนึ่งในนั้นก็คือกลุ่มวัยรุ่น จะเรียกว่าอีสปอร์ตอย่างเดียวมันก็ไม่ใช่ครับ เรียกว่าเป็นเด็กเจนใหม่ดีกว่า

ผมมองอีสปอร์ตเป็นโหมดการสื่อสารหนึ่ง คือเราเริ่มเห็นปัญหาของฐานแฟนคลับว่าฐานแฟนคลับในยุคก่อนหน้ามีความเข้มแข็ง แต่ในระยะหลังเราเริ่มไม่สามารถเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้ ปัญหานี้ไม่ใช่แค่เฉพาะวงการฟุตบอล เท่าที่ได้คุยกับทีม Super GT ทีมในวงการแข่งรถก็เจอปัญหาหมือนกัน ที่ผ่านมาเขามีแฟนเบสที่ยั่งยืนมาก มีตั้งแต่รุ่นแก่ วัยรุ่น แล้วก็สร้างยุคใหม่ รุ่นใหม่ขึ้นมาเองเรื่อยๆ แต่ประมาณ 5 ปีหลังมานี้ ปริมาณแฟนคลับใหม่ที่เป็นเด็กรุ่นใหม่ลดลงเรื่อยๆ คนที่เข้ามาอินในสนามก็ลดลง คนเข้าชมในสนามก็น้อยลง ซึ่งนี่เป็นสิ่งเดียวกับที่เราสัมผัสและพบเจอในสนามฟุตบอลเหมือนกัน ถามว่าคนดูอาจจะเยอะขึ้น อาจจะเชียร์เรามากขึ้น แต่คัลเจอร์มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ คนเข้าชมในสนามน้อยลง ฮาร์ดคอร์แฟนที่อยู่ข้างสนามตลอดเวลาน้อยลง เราสื่อสารกับเขาได้ยากขึ้น ผมว่ามันเป็นเรื่องขอ digitalization นั่นแหละ แล้วทุกๆ คนก็กำลังเริ่มหาวิธีที่จะทำ ที่จะสื่อสารกับคนกลุ่มนี้ให้ได้ เพื่อให้คอมมูนิตี้นี้ยังอยู่ และเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

มีหลายทีมที่ก้าวมาทำอีสปอร์ตเหมือนกัน อย่างที่เราเห็น MotoGP เองก็ทำ MotoGP eSport Championship ทีมฟุตบอลหลายๆ ทีม PSG แมนฯ ยู  ยูเวนตุส ก็ก้าวมาทำอีสปอร์ตเหมือนกัน อาจจะเป็นเกมที่ไม่แตกต่างกัน แต่ผมว่าทุกคนน่าจะมองเหมือนกันว่ามันเป็นหมวดหนึ่งของการสื่อสาร เพื่อที่จะมีแฟนเบส สำหรับบุรีรัมย์แฟมิลี่ ผมมองว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเป็นองค์กรหนึ่งองค์กร ไม่ใช่ทีมฟุตบอลอีกต่อไป ตรงนี้ทำให้เราไม่มีข้อจำกัด ขึ้นอยู่กับว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะก้าวเข้ามาสู่มาร์เกตไหน คอมมูนิตี้ไหน พอคอมมูนิตี้ของฟุตบอลมันเริ่มอยู่ในจุดพีค เราก็อยากจะก้าวเข้ามาในคอมมูนิตี้ใหม่ๆ เพื่อให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมีความเจริญเติบโตที่มากขึ้น เป็นจุดที่เราเข้ามาทำอีสปอร์ต

 

 

การเข้ามาทำพื้นที่ใหม่อย่างอีสปอร์ต มีวิธีการสร้างการยอมรับกับเกมอย่างไร

เรามองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเป็นคอมมูนิตี้อีสปอร์ต ถามว่าเราก้าวเข้ามาทำแบบนี้ สื่อสารแบบนี้เพราะอะไรยังไง อันนี้มันก็ต้องย้อนกลับไปในโมเดลของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เรื่องทำอะไรทำจริง ทำเต็มที่ อย่างที่เราทำกับฟุตบอล เรามีประสบการณ์ เรามีกรณีสำคัญตอนที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเริ่มทำมา ทำไมเราต้องเป็นแชมป์ ทำไมเราต้องจ้างต่างชาติ สิ่งที่คุณเนวินพูดตั้งแต่ตอนแรกๆ คืออยากยกระดับมาตรฐานฟุตบอลไทย เพื่อที่เขาจะทำอุตสาหกรรมให้มันยั่งยืน ซึ่งเราก็อยากจะทำแบบนั้นกับอีสปอร์ตเหมือนกัน และถ้าจะให้มันเป็นแบบนั้นได้ก็ต้องเปลี่ยนมุมมองของคน ของคอมมูนิตี้

 

แต่บางมุมคนก็ยังมองว่าเกมสร้างปัญหา

สิ่งที่คนไทยมองอีสปอร์ตหรือเกมมันก็ไม่ถูกหรือผิดซะทีเดียว ผมมองว่าเกมมันไม่ได้ต่างจากการออกกำลังกาย ไม่แตกต่างจากการทำงาน หรืออะไรก็ตาม ถ้าเราทำในปริมาณที่เหมาะสมมันมีผลที่ดีกับเราทุกอย่าง แต่ถ้าเราทำในปริมาณที่ไม่เหมาะสมหรือใช้ในวิธีที่ผิดมันก็เกิดผลเสียได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นน้ำเปล่า ถ้าเราดื่มมากไปก็ไม่ดีต่อร่างกาย ออกกำลังกายมากไปก็ไม่ดี ทำงานหนักมากไปก็ไม่ดีเช่นกัน การเล่นเกมก็เหมือนกันครับ

คนบอกว่าเด็กเล่นเกมสมาธิสั้น แต่ผมมองว่าไม่ใช่ เด็กเล่นเกมโคตรมีสมาธินะครับ เด็กสามารถนั่งจดจ่อแล้วก็เล่นอยู่อย่างนั้นต้องใช้สมาธิสูงมากนะครับ แต่กับเรื่องอื่นทำไมดูเหมือนไม่มีสมาธิ เพราะเขาทำตรงนี้แล้วเขารู้สึกชอบ รู้สึกอิน คนอาจจะคิดว่าน้องไม่มีสมาธิ อะไรก็อยากเล่นเกม เขามีสมาธิกับเรื่องนี้แต่เราสามารถเอาสมาธิของเขาไปใช้กับเรื่องอื่นได้หรือเปล่า

นอกจากเรื่องสมาธิ ยังมีเรื่องการจัดการด้วย ในหลายๆ เกมมันมีเรื่องของการบริหารจัดการอยู่ตลอดเวลา ทุกเกมมันต้องมีการวางแผนตลอดเวลา มีการบริหารจัดการทรัพยากร การที่เราชนะคนอื่น เก่งกว่าคนอื่น ทุกคนต้องหาวิธี เราก็ดึงเอาวิธีการคิดนี้มาบริหารจัดการชีวิตตนเอง เวลาการทำงาน เวลาการเล่น เวลาการศึกษาเรียนรู้ หรือแม้กระทั่งนำไปสู่ธุรกิจหรือองค์กรที่จะทำ ผมว่ามันมีมูลค่ามหาศาลเลยนะครับ บทเรียนต่างๆ ที่จะทำให้เห็นก็เหมือนกันครับ ถ้าเราไม่ทุ่มเท ทำมิชชั่น ทำเควส ทำอะไรต่างๆ แล้วค่อยๆ ไต่เลเวลขึ้นไป ความอดทน ความยากลำบากในแต่ละ process ที่มันไม่ได้มาง่ายๆ ถ้าเราสอนให้เขามีทัศนคตินำมาใช้ในชีวิต มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

 

โมเดลของบุรีรัมย์เหมือนเป็นการทำเรื่องสนุกสนานให้จริงจัง

สิ่งที่ผมคิดแต่ไม่ได้พูดเพราะผมว่าหลายคนอาจไม่เห็นด้วย หรือมองว่าผมบ้า แต่ลองคิดดูดีๆ สิครับ กีฬาทุกกีฬาตอนแรกเริ่มมันก็เป็นเกมเกมหนึ่ง เกมที่คนคิดมาเพื่อความสนุก พอมันเริ่มป๊อปปูลาร์ มันก็กลายเป็นเกมกีฬา หรืออะไรขึ้นมา ในยุคหนึ่งที่เขาไม่มี digitalization เขาก็ใช้เครื่องมือที่เขามีสร้างเกมขึ้นมา ผมคิดว่ามันก็เริ่มต้นแบบนี้หมด ก่อนที่ฟุตบอลจะถูกมองเป็นกีฬาอาชีพ มันก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเอนเตอร์เทนเมนต์ประชาชน ซึ่งจริงๆ ก็มีเรื่องของสุขภาพด้วย แต่ผมว่าเวลามนุษย์สร้างเกมอะไรขึ้นมามันก็เพื่อเอนเตอร์เทนเมนต์ทั้งนั้น

 

 

ในฐานะคนรุ่นต่อมาของเมืองบุรีรัมย์ เราทำให้ความเป็นดิจิทัลเข้าไปอยู่ในเมือง หรือการพัฒนาบ้างไหม

การ digitalize เมืองก็เช่นเดียวกับการพัฒนาเมือง พัฒนาจังหวัด ไม่ใช่อะไรที่เราทำคนเดียวได้  เช่นเดียวกับการที่เรายกระดับมาตรฐานแวดวงฟุตบอล เราเป็นโมเดลได้ เราสร้างมาตรฐานให้เห็นได้ แต่ถ้าเราทำคนเดียวมันไม่มีทางที่อุตสาหกรรมจะโต ถ้าเราทำคนเดียว สื่งที่เราทำได้คือการเป็นต้นแบบที่ดี นั่นก็คือสิ่งที่เราพยายามจะทำกับอีสปอร์ตเหมือนกัน เราเห็นแล้วว่าคนเริ่มอินกับอีสปอร์ต เริ่มมี digitalization มากขึ้น  แต่ถ้าอยากให้มัน digitalize จริงๆ เราต้องค่อยๆ educate ชาวบุรีรัมย์ ค่อยๆ มีพาร์ตเนอร์ หรือว่ามีชาวบุรรีรัมย์ที่คิดเหมือนกับเรา เริ่มคิดแล้วทำเองในแบบของเขา มันเป็นสิ่งที่เราเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เราเริ่มเห็นว่าร้านอาหารก็เริ่มมีการโอนเงิน เริ่มมี cashless society เกิดขึ้น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็มีแพลนที่จะทำ cashless society เหมือนกัน แต่มันก็ต้องเป็นทีละเสต็ป ต้องมีหลายๆ ฝ่าย หลายๆ คนมาช่วยกันทำ

 

เราสามารถมองโลกดิจิตัลเป็นสาธารณูปโภคใหม่ของเมืองได้ไหม

ใช่แหละเมืองต้องการ infrastructure ใหม่ๆ อินเทอร์เน็ตดีไหม สัญญาณโทรศัพท์ทั้งหลายแหล่ ทางเราทำเต็มที่แล้วก็ดึง economy เข้ามาสู่บุรีรัมย์ ก่อให้เกิดการเจิรญเติบโต เกิดโอกาสทางธุรกิจใหกับแบรนด์อื่นๆ ในบุรีรัมย์มากขึ้น แล้วแบรนด์ต่างๆ ก็จะเข้ามาสู่บุรีรัมย์ เพราะในเมื่อบุรีรัมย์เป็นเมืองที่เขาอยากมาลงทุน มันก็ก่อให้เกิดสิ่งพวกนี้ตามมาโดยปริยาย ถามว่าเราเคลมเครดิตได้ไหมว่าเราทำให้สิ่งพวกนี้เกิดขึ้น มันก็ได้ครึ่งเดียว ที่เราทำคือการเปิดทาง ทำให้มันเป็นที่รองรับ หรือเหมาะสม

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีส่วนทำให้เมืองกระฉับกระเฉงขึ้นหรือเปลี่ยนไลฟ์สไตล์คนเมืองไปไหม

มันเปลี่ยนแน่นอนครับ อีกอย่างหนึ่งที่ผมไม่ได้พูด สิ่งที่ทำให้ชาวบุรีรัมย์รู้สึกว่าทีมนี้เป็นทีมของเขา คือเราสร้างสนามมาตรฐานระดับโลกมา 2 สนาม แล้วเปิดทัวร์ให้สามารถเข้าชมฟรี พาเพื่อนๆ มาดูได้ เข้าชมได้ มาออกกำลังกายข้างๆ สนามซ้อมได้ ทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นบ้านเขา สิ่งพวกนี้มันคอมโบกับความภาคภูมิใจของชาวบุรีรัมย์ที่ให้กับบุรีรัม์ ยูไนเต็ด มันก่อให้เกิดวิถีชีวิตที่แตกต่าง เปลี่ยนวิถีชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือไปเลย

ในเชิงของพื้นที่ส่วนกลางผมไม่แน่ใจว่ามันกระทบคนทุกคนมากน้อยแค่ไหน แต่มันมีผลในเชิงเศรษฐกิจแน่นอน ทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น บ้านจากที่ดินราคาหลักหมื่น กลายเป็นหลักหลายล้าน ในเชิง community culture หรือ infrastructure ที่เราสร้างขึ้นมา ผมพูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำว่าเปลี่ยนไปแค่ไหน แต่มันกลายเป็นสถานที่ที่เขาภูมิใจ เวลาเพื่อนมา นี่คือบ้านของเขา สนามของเขา มีพื้นที่ให้ออกกำกำลังกาย พาลูกๆ มาเล่นสเก๊ต มาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เขาภาคภูมิใจ มันก็เป็นอีกมิติหนึ่งที่ทำให้คนบุรีรัมยมีความสุขมากขึ้นด้วย ผมว่าคนบุรีรัมย์เลยไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้จ่ายมากขึ้น แต่เขามาพึ่งเราในเรื่องบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันที่ทำให้คุณภาพชีวิตของเขาดีขึ้นได้

การทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ก็เรื่องหนึ่ง แต่การเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เปลี่ยนองค์ประกอบในเมือง ทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมันต้องใช้เวลา กว่าจะสร้างโรงแรม สร้างคอมมูนิตี้มอลล์ มันใช้เวลา ผมก็ต้องยอมรับว่าเมืองมันยังไม่ได้โตเร็วในทุกมุมขนาดนั้น ยังถือเป็นพื้นที่บ้านนอกอยู่ แต่เขาสามารถเข้ามาใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นบ้านของเขาได้ มันก็เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เปลี่ยน culture ของคนบุรีรัมย์ไปไม่มากก็น้อยเหมือนกัน

 

 

บุรัมย์ ยูไนเต็ดทำอย่างไรถึงสร้างความเป็นปึกแผ่นขึ้นได้

สิ่งที่กลายเป็นมาตรฐานของของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มันไม่ใช่แค่ทำอะไรทำจริง แต่มันมีเรื่องของมาตรฐานโลกที่ก้าวเข้ามาเพื่อยกระดับอุตสาหกรรม และทำให้คนไทยได้สัมผัสมาตรฐานระดับ international  ที่เราเดินทางไปศึกษาและนำมาสู่ชาวบุรีรัมย์ ความยูนีค ทำอะไรต้องทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่อลังการและแปลกไม่เหมือนคนอื่น อย่างที่เห็นว่าช้างอารีน่าก็เป็นสนามที่สร้างเร็วที่สุดในโลก 256 วัน ลงบันทึกกินเนสเวิล์ดเรคคอร์ด race circuit ก็เป็นสนามที่สร้างไวที่สุดในโลก 422 วัน ได้มาตรฐานโลก รองรับได้ทุกการแข่งขัน ทำให้เกิดเป็นความภาคภูมิใจของชาวบุรีรัมย์

 

ในตอนนั้นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดตั้งใจสร้างสนามช้างอารีน่าให้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมของคนเมืองไหม

ในวันแรกที่เราเริ่มทำมันมีอะไรยิบย่อยหลายอย่างที่เราตั้งใจวางไว้ เช่น ถ้าทีมฟุตบอลไม่ได้ซ้อมแทคติก เราก็จะออกมาซ้อมข้างนอกให้คนบุรีรัมย์ได้ดูได้เห็น ไม่ใช่ทุกทีมที่ทำแบนี้นะครับ แต่เราคิดว่าเรื่องนี้มันสำคัญ เพราะชาวบุรีรัมย์ก็จะได้มานั่งดูทีมของเขา นี่คือทีมที่เขารัก เขามาวิเคราะห์ มาสนับสนุนนักกีฬา มีส่วนร่วมที่จะพัฒนา รู้สึกว่านี่เป็นทีมของเขา ไม่ใช่แค่แฟนคนหนึ่งที่เข้าถึงทีมไม่ได้ หรือทุกครั้งที่จบการแข่งขัน เราต้องไปทานข้าวในตลาดนัดร่วมกับทุกคนมันก่อให้เกิดวัฒนธรรม แฟนๆ สามารถนั่งไหล่ชนไหล่กับนักกีฬา กับท่านประธานหรือทีมงานได้เลย นักกีฬาก็เช่นกัน พวกเขาได้สัมผัสความเป็นแฟมิลี่คัลเจอร์ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดทำ มันมากกว่าคำว่าธุรกิจ มันเป็นอะไรที่เข้าถึงสัมผัสได้ รู้สึกว่าเป็นของชาวบุรีรัมย์มากกว่าแค่เป็นทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

 

 

E-sport City ถือเป็นก้าวต่อไปของบุรีรัมย์?

ตอนที่ผมตั้งใจทำ ผมไม่ได้คิดว่าเราต้องเป็นฮับอีสปอร์ตของภาคอีสานหรือประเทศไทย แต่ผมคิดว่ามันเป็น vision ที่เราต้องทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทำมามันถึงจะกลายเป็นฮับมากกว่า เป้าหมายของผมคือทำให้ดีที่สุด แล้วเราถึงจะกลายเป็นสปอร์ตฮับ เป้าหมายของผมตอนก้าวเข้ามาใน e-sport city คือต้องทำให้ได้มาตรฐาน ต้องทำเป็นอาชีพ ต้องสนับสนุนและทำให้อุตสาหกรรมมันก้าวต่อไปได้ สิ่งที่ผมอยากจะทำกับอีสปอร์ตคือผมอยากให้มันเป็นเครื่องมือในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ และอยากสนับสนุนให้เด็กไทยไปในระดับโลก

ในวันที่พ่อ (เนวิน ชิดชอบ) สร้างทุกสิ่งทุกอย่างมาและเขาอยากทำให้บุรีรัมย์พัฒนาเจิรญเติบโตต่อไป อยากให้บุรีรัมย์อยู่ในแผนที่ประเทศไทย เพราะในสมัยนั้นแม้แต่คนไทยเองก็ไม่รู้จักบุรีรัมย์ แต่ตอนนี้เราก็ทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักแล้ว เราประสบความสำเร็จในฟุตบอลก็ทำให้คนเอเชียรู้จักบุรีรัมย์ เราก้าวมาทำ circuit Motorsport ก็ทำให้บุรีรัมย์เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกแล้ว แต่ในทุกสิ่งทุกอย่าง ผมรู้สึกว่าเด็กไทยยังไปไม่ถึงระดับแชมป์โลก บุรีรัมย์ทำให้เด็กไทยได้เข้ามาอยู่ในซีนโลก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันระดับเอเชียหรือการเข้ามาอยู่ในรายการ Motorsport ได้เข้าไปแข่งขันในรายการะดับโลก ทำให้เด็กไทยเข้าถึงรายการพวกนี้ง่ายขึ้นแต่เด็กไทยยังไม่ได้เป็นแชมป์ ผมคิดว่าอีสปอร์ตมันมีสิทธิ์ตอบโจทย์พวกนี้ได้

จากที่ผมเห็นความทุ่มเท ความพยายาม และความเป็นมืออาชีพของทีมงานบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและสิ่งที่เรานำมาสู่อุตสาหกรรมฟุตบอล ผมคิดว่าเราทำได้ดีมาก เพียงแต่มันมีแฟคเตอร์อื่นๆ ที่ทำให้เด็กไทยสู้กับชาติอื่นๆ ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นด้าน physicality  หรือด้านร่างกาย ผมว่าในมอเตอร์สปอร์ตก็มีแฟคเตอร์คล้ายๆ อย่างนี้เหมือนกัน แต่ของเขาอาจจะมีอีกส่วนหนึ่ง เช่นเรื่องของความจริงจัง การลงทุนที่อาจจะยังไม่เยอะเท่าต่างประเทศ แต่ผมมองว่าอีสปอร์ต สภาวะร่างกายไม่มีผลเลย คุณจะตัวใหญ่แข็งแรง คุณจะเป็นเด็กผมกะหร่องก่องแก่ง คุณจะเป็นเด็กอ้วน คุณจะเป็นเด็กเตี้ย คุณจะเป็นอะไรก็เล่นเกมเก่งได้ ถ้าเป็นนักฟุตบอล แต่ไม่สูงคุณก็เป็นผู้รักษาประตูไม่ได้ วิ่งไม่เร็วก็เป็นนักวิ่งไม่ได้แล้ว สายตาไม่ดีก็ยิงธนูไม่ได้แล้ว กีฬาแต่ละอย่างมันมีข้อจำกัดตรงนี้หมด แต่อีสปอร์ตไม่มี ผมว่ามันไร้ข้อจำกัดมากๆ

เด็กไทยเก่งอยู่แล้วในอีสปอร์ต คัลเจอร์คนไทยเป็นคัลเจอร์ที่บ้าเกมมาก แต่สังคมไม่ยอมรับไงครับ เลยต้องไปแอบเล่นกัน แต่จริงๆ แล้วเด็กไทยทุ่มเทมากแต่ยังไม่ได้รับการสนับสนุน ถ้าเราไปดูจริงๆ เด็กไทยก็เป็นระดับท็อปในหลายเกมเหมือนกัน พอเห็นแบบนี้แล้ว ผมอยากให้เด็กไทยพร้อมกับแบรนด์บุรีรัมย์สนับสนุน และไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่ให้คนเห็นและรู้จักแต่ให้เราไปเป็นอันดับหนึ่งเพื่อสานฝัน และผมว่ามันทำได้จริง ซึ่งถ้าเกิดขึ้นมันจะมีผลกระทบมากมายให้กับวงการอีสปอร์ตไทยและคนไทย

พอ global มองเราในอีกแบบหนึ่งแล้ว สิ่งที่จะตามมามันไม่ได้ให้ประโยชน์แค่พวกผม นั่นคือเหตุผลที่ผมอยากทำขึ้นมา แน่นอนว่าข้อดีที่เราพูดไปมากมาย แต่ด้วยความที่มันเป็นอุตสาหกรรมใหม่มันก็มีหลายอย่างที่ขาดเหมือนกัน กว่าฟุตบอลจะประสบความสำเร็จและพัฒนาในอุตสาหกรรมมาได้ขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าก้าวเข้ามาแล้วประสบความสำเร็จเลย มันต้องมีอะคาเดมี่ที่สร้างเด็ก ต้องมีสมาคมที่มีมาตรฐาน มีสปอนเซอร์ มีเด็กๆ ไฟแรงที่พร้อมจะพัฒนาทีมไปเรื่อยๆ

 

 

ทำให้พ่อเชื่อว่า E-Sport คือกีฬา

ตอนนั้นคนที่พูดให้ท่านประธานเชื่อได้ ไม่ใช่ผม ผมเคยพยายามในตอนแรก แต่ลองนึกภาพครับ ลุงเนก่อนจะเป็นประธานสโมสร ก่อนที่จะเป็นอดีตนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะเป็นนู่นนี่นั่นของแต่ละคน แกก็เป็นพ่อคนหนึ่งที่มีความเป็นห่วงลูกเหมือนๆ กับพ่อคนอื่น ในเวลาที่เขาวัยเดียวๆ กับพวกผม มีเวลาว่างก็ไปเตะบอล ไปออกกำลังกาย แต่ในยุคพวกผม โอเคเราก็ออกกำลังกาย ไปเตะบอล ไปทำไรเยอะ แต่เราก็ดูยูทูป เล่นอินเทอร์เน็ต เล่นเกม แล้วบ้านผมตั้งแต่เด็กจนโตเล่นเกมกันเยอะมาก เขาไม่เข้าใจเพราะเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลยในยุคที่เขาโตมา อย่างน้อยไปออกกำลังกายก็ยังแข็งแรง ไปเจอแสงแดด ไปทำนู่นทำนี่ ได้เห็นโลกบ้างแทนที่จะอยู่แค่จอ ในการเป็นลูกแกมาก็ทะเลาะกันมาตลอด เพราะฉะนั้นการที่เมื่อ 3 ปีก่อน ผมไปบอกว่า พ่อครับ ผมอยากทำอีสปอร์ต และผมคิดว่าเกมมันเป็นกีฬาได้จริง มันสามารถทำให้องค์กรของเราเจิรญเติบโตได้อย่างยั่งยืน แน่นอนว่าสิ่งที่ผมได้กลับมาไม่ใช่ ดีนะลูกเอาเลย แต่เขาก็ตอบกลับมาว่าเพราะเราแค่ชอบเกมหรือเปล่า

หลังจากนั้นมาเราก็อยู่ในสภาวะที่อยากเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นตัวจังหวัด ตัวเมือง หรือตัวองค์กรของเราเอง เพราะว่าการที่เราจะพัฒนาหรือเติบโตไปเรื่อยๆ  เพื่อที่จะสนับสนุนและทำสิ่งที่เราอยากทำไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะสนับสนุน หรือทำสิ่งที่เราอยากทำไปเรื่อยๆ แต่พอเราโตไวกว่าอุตสาหกรรมฟุตบอล ซึ่งมันอาจจะโตได้อีก แต่มันก็ต้องโตตามอุตสาหกรรมด้วย มันเลยทำให้เรามองหาช่องทางที่จะหารายได้เพิ่มเติม สภาวะนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว พอเราได้รับโจทย์นี้จากผู้บริหาร ทุกคนก็ไปทำการบ้าน ผมก็เลยได้เสนอและพูดคุยเรื่องอีสปอร์ตกับ CEO อีกครั้งหนึ่ง

จริงๆ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้คิดเหมือนกัน แล้วอีสปอร์ตมันเริ่มเป็นกระแสไปทั่วโลก เพื่อนเขาก็มาพูดว่ามันมีศักยภาพ มีโอกาสเยอะนะ แล้วเราก็ได้ทำการบ้านในเชิงของตัวเลขว่ามันไปถึงไหนแล้ว เขาที่ไม่ได้เป็นคนเล่นเกมหรือเข้าใจในอีสปอร์ต แต่เขาเป็นนักธุรกิจพอเห็นตัวเลขนี้เขาก็เห็นว่ามันเป็นไปได้จริง เขาก็เอาไปคุยกับท่านประธาน พอสองหัวที่ไม่เล่นเกมเหมือนกันคุยกันก็คงเข้าใจ เขาก็เห็นว่ามันมีโอกาสก็เลยตัดสินใจ เพราะเขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นสิ่งที่แมสจริง มีคอมมูนิตี้เยอะจริง ไม่มีพรมแดน สามารถทำได้ทั้งหญิง ชาย ทั้งแก่ ทั้งเด็ก แกก็ลองให้ทำดู

ถามว่าในวันนั้นคิดว่ามันจะประสบความสำเร็จไวขนาดนี้ หรือคิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ไหม ผมว่าก็คงยังไม่ได้คิดอย่างนั้น แต่คิดว่ามันเป็นโอกาสและเป็นการเปิดประตู พอไฟเขียวเท่านั้นแหละ พวกผมก็ลุยเลยครับ แต่การคุยมันไม่ได้ง่ายครับ เพราะผมเองแหละที่ทำให้มันยาก มันอาจจะง่ายกว่านี้ ถ้าไม่ได้ติดเกมกันมาตั้งแต่เด็กๆ

 

 

อีสปอร์ตอยู่ในจุดไหนแล้วในตอนนี้

อีสปอร์ตมันอยู่ในกระบวนเดียวกับฟุตบอล ที่เรามองย้อนกลับไป 10 ปี ก่อน ทุกคนยังไม่อยากให้ลูกเป็นนักบอล มันเลี้ยงอาชีพไม่ได้หรอก จะเล่นทำไม แต่วันนี 10 ปีต่อมา ทุกคนส่งลูกไปเรียนคอร์สเรียนฟุตบอล ไปเข้าร่วมกับสโมสรนั้น สโมสรนี้ หวังว่าลูกจะได้มาเป็นนักกีฬาฟุตบอล อีสปอร์ตมันอยู่ในจุดนี้เหมือนกันครับ เพราะฉะนั้นมันถึงมี requirement อีกหลายอย่าง ไม่ใช่แค่พวกผมที่ต้องทำ แต่ผมหวังว่าบุรีรัมย์จะเป็นโมเดล ถ้าพวกเราทำแล้วมันประสบความสำเร็จ คนเริ่มมองเห็นโอกาส  หลายๆ คนจะทำตามและช่วยกันผลักดันตรงนี้ขึ้นมา

เราเลยต้องทำอารีน่าขึ้นมาเพื่อเป็นตัวอย่างให้คนอื่นเห็นว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เพื่อที่จะมีทีมอีสปอร์ตที่ประสบความสำเร็จและโตไปอย่างยั่งยืน ทำตรงนี้ปุ๊บก็ยังไม่ครบอยู่ดี มันต้องมีอะคาเดมี่ ต้องมีแพลตฟอร์มให้น้องๆ อยากจะมาเริ่ม เสต็ปต่อไปที่ผมอยากจะทำหลังจากมีอารีน่าคือเริ่มมีทัวร์นาเมนต์ อาจจะเริ่มมีเดือนละครั้ง สองอาทิตย์ครั้ง หนึ่งอาทิตย์ครั้งที่มันไม่ต้องซีเรียส หรือระดับโปรลีกอะไรขนาดนั้น เป็นทัวร์นาเมนต์ที่เข้าถึงได้ทุกคน

ตอนนี้ผมสังเกตว่าทุกคนโฟกัสแต่ professional team หรือ university league  จริงๆ มีคนอีกเยอะมากๆ ที่ต้องการเวทีในการโชว์ฝีมือ แต่เขายังไม่มีโอกาสที่จะทำแบบนี้ เพราะทุกคนมัวแต่ไปทำทัวนาร์เมนต์โปร ทัวร์นาเมนต์ยูนิเวอร์ซิตี้ สิ่งที่ผมอยากจะทำในปีหน้า ผมยากจัดทัวร์นาเมนต์ร้านเกม ให้ตรงนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นพื้นที่และแพลตฟอร์มให้ร้านเกมทุกร้านสามารถจัดทัวร์นาเมนต์เล็กๆ และมีทีมตัวแทนของร้านขึ้นมาได้ มันจะเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของคนอีกหลายๆ คนที่ไม่สามารถเข้าไปสู่ลีกใหญ่ได้ มีพื้นที่โชว์ตัวเองขึ้นมา ผลของมันไม่ใช่แค่ตัวนักกีฬาแต่มันจะมีแรงบันดาลใจ มีความเข้าถึงง่ายของกีฬาทำให้คนรู้สึกว่าฝันนี้เป็นจิรงได้ การจัดทัวร์นาเมนต์ของผมแน่นอนว่ามันอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับชาวบุรีรัมย์

 

 

วิธีคิดในการออกแบบและลงทุนกับอารีนาเป็นอย่างไร

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมันเป็นธุรกิจ เราก็ต้องมีแผนไปทีละเสต็ป ผมโชคดีครับ ผมโชคดีครังที่ไม่ต้องสร้างหาทั้งหมด ในแง่การลงทุน ผมเชื่อว่าปีแรกผมไม่ขาดทุน มีกำไรนิดหน่อยด้วย คือในเชิงของธุรกิจมันก็ประสบความสำเร็จ ผมดูแลอีสปอร์ตทั้งหมดเลยนะครับ ไม่ใช่ว่าดูแลแค่เรื่องทีม ตอนนี้ทุกอย่างที่เราทำมันทำเงินได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราทำแค่นี้- เป็นสเตเดียมเล็กๆ มันเป็นเรื่องของการคุมงบประมาณ เราทำทีละเสต็ป แม้ว่าเราจะมี vision ที่จะทำอะไรเยอะแยะมากมาย ก็ไม่ใช่ว่าเราหลับหูหลับตาเอาเงินแก้ปัญหาทำทุกอย่างได้ มันก็ต้เองมีวิธีการเหมือนกันนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมมีชั้นเดียว อยู่ในสถานที่ที่เป็นช็อปเก่า เป็นการ ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่เรามีอยู่ให้ดีที่สุด

คือถ้าเราทำอินดอร์มันต้องลงทุนมหาศาล ในขณะเดียวกันอารีนาใหญ่ๆ ก็อาจจะเข้าถึงยาก เฉพาะกลุ่มเกินไป เราต้องการให้คนหลายคนเข้าถึงได้ เราให้ความสำคัญกับอีสปอร์ต ทุ่มเทกับอีสปอร์ต และจริงจังกับอีสปอร์ต ไม่ต่างจากกีฬาอื่นๆ หรือสิ่งอื่นที่เราทำเลย นั่นเป็นคัลเจอร์ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอยู่แล้ว เรามีคอมมมูนิตี้ที่ศรัทธาในแบรนด์บุรีรัมย์ และเป็นคอมมูนิตี้ของคนรุ่นใหม่ที่กำลังเติบโต พอเรารวมสองอย่างนี้ด้วยกันมันก็จะเป็นอีสปอร์ตฮับและอีสปอร์ตซิตี้ คือถ้าเรามีสโมสรที่ทุ่มเท ตั้งใจ แล้วเรามี facilities และ platform ให้กับชาวอีสปอร์ตทั่วประเทศ แถมประกอบกับคอมมูนิตี้ที่มีศรัทธาและเชื่อมโยงกับกีฬาอีสปอร์ตได้ ทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่าบุรีรัมย์จะเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาแวดวงอีสปอร์ตได้

สิ่งที่ผมคิดว่ามันอะเมซิ่งที่สุดในบุรีรัมย์สตอรี่คือศรัทธาของแฟนๆ กับคอมมูนิตี้ที่เกิดขึ้น  ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคนบุรัมย์วิธีคิดที่เรามองเรา เขารัก เขาเชื่อไปแล้ว การทำอีสปอร์ตบางทีคนบุรีรัมย์อาจจะไม่ได้เข้าใจเรื่องเกม เรื่องกลไกรายละเอียดซะทั้งหมด แต่คนบุรีรัมย์ก็เชื่อใจเรา ตรงนี้ผมเองถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เลยนะ การทำให้คนคนหนึ่งเชื่อใจเราได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ในจุดนี้พอเราทำอีสปอร์ตเขาก็รักอีสปอร์ต เชียร์อีสปอร์ต หน้าเป็นยังไงเข้ามาดูหน่อย อยากเห็น แต่พอดูแล้วก็อาจจะไม่ได้เข้าใจขนาดนั้น แต่พอเขาเห็นว่าเป็นนักกีฬาบุรีรัมย์ เขาก็บอกว่าสู้ๆ ขอให้ชนะ เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจ ทั้งที่เขายังไม่รู้เลยว่าคืออะไร มันก็คือความศรัทธา คือความรัก ทีมบุรีรัมย์เป็นทีมของเขา

 

กังวลไหมว่าอีสปอร์ตจะเป็นแค่เทรนด์

ไม่ครับ ผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นแค่เทรนด์ ถามว่าเกมบางเกมเป็นแค่เทรนด์ได้ไหม ได้ แต่ถามว่าอีสปอร์ตจะเป็นแค่เทรนด์ไหม เป็นไปไม่ได้ ถามว่าเป็นไปได้ไหม ที่วันนึงคนเราจะเลิกหาความสุขและความบันเทิง เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ไหมที่วันนึงเด็กๆ จะไม่ชอบเล่นเกม เป็นไปไม่ได้ ยิ่งมันเข้าถึงง่ายขึ้น digitalization ทำให้เทคโนโลยีถูกลง มันก็ต้องเล่นเกมไหนเกมหนึ่งไปเรื่อยๆ แหละครับ เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นแค่เทรนด์ ถามว่าเทรนด์ ROV เทรนด์ PUBG วันหนึ่งจะตายหายไปได้ไหม อันนี้เป็นไปได้แน่นอน เป็นเรื่องปกติ แล้วมันก็จะมีเกมใหม่ที่ดีกว่าที่เจ๋งกว่าขึ้นมา

 

 

Photos and Cover Illustration by Napon Jaturapuchapornpong

 

Share :