กลับมาอีกครั้งกับการที่เราได้เยือนวาคานด้า แม้ว่าคราวนี้หนึ่งในบรรยากาศหลักของเรื่องคือความโศกเศร้าจากการสูญเสีย ‘แบล็ค แพนเธอร์’ ไป แต่ภาพของวาคานด้าที่นำเอาวัฒนธรรมชนเผ่าของอัฟริกามาตีความไปสู่เมืองล้ำยุคแห่งอนาคต ก็ยังสร้างความตื่นตาตื่นใจให้เราได้อีกครั้ง และคราวนี้ยังมีอาณาจักรใต้ทะเลมาร่วมพาเราจินตนาการถึงเมืองรูปแบบอื่นด้วย
เรารักวาคานด้า แน่นอนว่าวาคานด้าถือเป็นภาพจินตนาการแรกๆ ที่มาเวลนำเอาวัฒนธรรมอัฟริกามานำเสนอให้กับโลกในมิติใหม่ เป็นภาพกลุ่มอารยธรรมที่ไม่ยากจน แต่ทว่าล้ำยุค และร่ำรวยจากทรัพยากรสำคัญคือแร่ไวเบรเนียม วาคานด้าในฐานะเมืองในจินตนาการ คือพื้นที่ที่เจริญเติบโตขึ้นท่ามกลางธรรมชาติและการปิดบังตัวเองออกจากสังคมโลกจนกลายเป็นรูปแบบเมืองที่เปิดโอกาสให้นักออกแบบสร้างเมืองที่มีลักษณะเฉพาะขึ้น นอกจากสีสัน งานออกแบบและการประยุกต์ประวัติศาสตร์ไปสู่การสร้างเมืองล้ำสมัยแล้ว ในช่วงที่แบล็คแพนเธอร์ภาคแรกสร้างกระแสสำคัญขึ้นมา นักผังเมือง สื่อชั้นนำรวมถึงสื่อด้านเมืองและสถาปัตยกรรมเองต่างก็ออกมาให้ความเห็นว่า วาคานด้าเป็นเมืองที่น่าสนใจ บ้างก็บอกว่าตนเองยินดีจะไปใช้ชีวิตที่นั่น บ้างก็ชี้ให้เห็นว่าเมืองจินตนาการในป่าเขาที่แสนฉูดฉาดนี้ อาจให้บทเรียนเรื่องเมืองและอนาคตของเมืองที่ดีได้
ในโอกาสที่วาคานด้ากลับมาผงาดอีกครั้ง City Cracker ชวนไปเยี่ยมชมเมืองวาคานด้า ถึงความเป็นเมืองที่ดี ลักษณะเฉพาะของเมืองในจินตนาการและเมืองแห่งอนาคตที่อาจช่วยแนะนำและวาดภาพเมืองแห่งอนาคตของเราต่อไป การเป็นเมืองของผู้คน ดินแดนที่เฟื่องฟูและไม่มีการแบ่งแยกจากพื้นที่ชนบทและธรรมชาติ รวมถึงการเป็นเมืองในอุดมคติที่ตอบแนวคิดสำคัญๆ ทั้งเมืองเดินได้ การรักษาความเป็นชุมชนและการเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันและกลิ่นอายของความหลากหลาย
Grassroot Urbanism การพัฒนาเมืองจากรากฝอย
การวาดภาพเมืองขึ้นมา ด้านหนึ่งวาคานด้ามีลักษณะเป็นเมืองในอุดมคติ เป็นประเทศลึกลับที่มีความเจริญก้าวหน้าและด้านหนึ่งก็นับว่าเป็นเมืองที่ดีเมืองหนึ่ง เป็นดินแดนแห่งความมั่งคั่งและความผาสุข เบื้องต้น ภาพเมืองวาคานด้าที่ล้ำสมัยและฉูดฉาดนั้นก็สะท้อนถึงการเป็นเมืองที่มอบความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คนในส่วนผสมของเทคโนโลยีและความเป็นพื้นถิ่นได้อย่างน่าหลงใหล
ในการพัฒนาเมืองนั้น ด้วยบริบทเฉพาะของวาคานด้าทำให้นักผังเมืองมองว่าวาคานด้าไม่ได้มีรูปแบบการเติบโตของเมืองเหมือนกับเมืองทั่วๆ ไป เช่น การแทนที่พื้นที่ชนบทไปสู่พื้นที่เมือง การมีวัฒนธรรมรถยนต์เป็นศูนย์กลาง มีนักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตไว้อย่างน่าสนใจว่าวาคานด้าน่าจะไม่ได้เป็นการพัฒนาแบบบนลงล่าง คือวาคานด้าน่าจะไม่มีแผนการพัฒนาหลัก ดูจากอาคารและลักษณะการเติบโตของเมืองที่เป็นกลุ่มก้อน แต่ละพื้นที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้คน เช่น ตึกสูงที่เป็นอาคารพักอาศัย ตลาด ลานกว้างและพื้นที่อื่นๆ การเติบโตนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นการพัฒนาเมืองจากรากฝอย (Grassroot Urbanism) คือพลเมืองหรือผู้คนเป็นผู้กำหนดหน้าตาและรูปแบบการใช้งานพื้นที่เมืองจากล่างขึ้นบน อาคารสูงที่เป็นที่พักอาศัยอาจเป็นการอยู่อาศัยร่วมกัน ตลาดและการแลกเปลี่ยนค้าขายก็อาจเป็นไปโดยอิสระและพัฒนาต่อเนื่องมาจากการพื้นที่ของหมู่บ้าน
Human Scale and Pedestrian Friendly เมือง ‘สเกลมนุษย์’ ที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของผู้คน
ในขั้นตอนการออกแบบงานสร้าง โปรดักชั่นดีไซเนอร์ Hannah Beachler ผู้ออกแบบหลักของวาคานด้าและนำแบล็คแพนเธอร์รับออสการ์ กล่าวว่าในการออกแบบวาคานด้า เทคโนโลยีของมหานครนั้นทำหน้าที่เชื่อมต่อ ‘ผู้คน’ เข้าหากัน หัวใจของวาคานด้าคือผู้คน เมืองและเทคโนโลยี โดยทีมออกแบบมีการศึกษาอย่างละเอียดและใช้วัฒนธรรมพื้นถิ่นผสมเข้ากับเส้นสายและอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมของซาฮา ฮาดิด
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ข้อสังเกตต่อเมืองวาคานด้าคือเป็นเมืองที่ให้ความสำคัญกับผู้คน เป็นเมืองที่มี ‘สเกลมนุษย์’ เป็นหัวใจของเมือง ในภาพรวมเราจะเห็นภาพของเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน วาคานด้าล้ำไปด้วยเทคโนโลยีก็จริง แต่ในเมืองเราจะเห็นผู้คนและวิถีชีวิตของชาววาคานด้าเสมอ เราเห็นเมืองที่ผู้คนทุกชนชั้นทุกเผ่าพันธุ์อยู่ตามท้องถนน ได้เห็นแผงอาหารของคนพื้นเมือง วาคานด้าแทบจะเป็นเมืองไร้รถยนต์ มีระบบขนส่งสาธารณะเชื่อมต่อพื้นที่ต่างๆ เป็นเมืองแห่งอนาคตที่ไม่ได้มีแค่ตึกสูงเสียดฟ้าและกดให้คนตัวเล็กลง แต่ทั้งเมือง สาธารณูปโภคต่างก็เอื้อให้ผู้คนมีชีวิต
All Shape, Size and Texture City สถาปัตยกรรมที่สะท้อนความหลากหลาย
ความพิเศษของวาคานด้าในฐานะเมืองแห่งอนาคตคือ ‘ความหลากหลาย’ วาคานด้าเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนและเต็มไปด้วยสีสัน วาคานด้าแตกต่างจากเมืองในอนาคตอื่นๆ ที่มักเป็นภาพของเมืองที่สูงเสียดฟ้าหรือใหญ่มหึหาและมีลักษณะที่ซ้ำกัน เช่น เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยกระจก โดมหรือโลหะ แต่วาคานด้าเป็นเมืองที่สร้างขึ้นบนความหลากหลายรวมถึงลักษณะทางสถาปัตยกรรมด้วย เราจะเห็นวัสดุที่แตกต่างกัน เห็นอาคารที่เต็มไปด้วยรูปทรงที่หลากหลาย เห็นพื้นผิว เห็นผ้า สี ลวดลายที่อยู่ร่วมกับวัสดุและเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง ในแง่นี้สถาปัตยกรรมของวาคานด้าจึงอวลไปด้วยกลิ่นอายของผู้คนที่สะท้อนถึงความหลากหลาย ทำให้เมืองเองก็มีสีสัน มีความเคลื่อนไหวไม่ต่างกับผู้คนและวัฒนธรรมที่หล่อเลี้ยงวาคานด้าจนกลายเป็นมหานครแห่งอนาคต
Co-exist of Past and Future เมืองที่เติบโตและรักษาอดีตไว้ได้อย่างลงตัว
มีคำกล่าวว่า เมืองที่ดีคือเมืองที่รักษาอดีตของตัวเองไว้ วาคานด้าจึงเป็นตัวอย่างที่มีความเป็นอุดมคติมากของการเป็นเมืองและกลุ่มอารยธรรมที่ทั้งรักษาอดีต เช่น ขนบธรรมเนียมให้เคียงคู่กับวิถีชีวิตและเทคโนโลยีแห่งอนาคตให้เฟื่องฟูไปพร้อมกันได้อย่างน่าสนใจ ในเมืองวาคานด้าเราจะเห็นถึงวิถีชีวิตและความเชื่อแบบพื้นถิ่นหรือชนเผ่า ที่ยังมีพื้นที่ของตัวเอง การเต้นรำ พิธีกรรม รวมถึงหลักความคิดบางอย่างที่ผู้คนยังยึดถือและทั้งหมดนั้นก็สะท้อนอยู่ในพื้นที่เมืองอันเป็นเมืองแห่งอนาคตที่มีอดีตอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน
Nature City เมืองล้ำสมัยท่ามกลางธรรมชาติ
แน่นอนว่าจุดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของวาคานด้าในฐานะเมืองที่เติบโตขึ้นอย่างเฉพาะ คือการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ วากันมีความน่าสนใจคือเป็นเมืองที่รักษาอดีต คำว่าการดำรงอยู่ของอดีตในที่นี้บางส่วนสัมพันธ์กับวิถีชีวิต เราจะเห็นว่าเมืองวาคานด้ามีความเชื่อมต่อกันของพื้นที่ชนบทและพื้นที่เมือง ชาวเมืองวาคานด้ามีความสัมพันธ์ทั้งกับพื้นที่เกษตรกรรม การค้าขายสินค้าประจำวันที่อยู่ร่วมกับวิถีชีวิตล้ำสมัยได้
ตัวเมืองวาคานด้าไม่ได้แบ่งแยกเมืองออกจากธรรมชาติ เราจะเห็นภาพเมืองที่เติบโตขึ้นโดยเชื่อมต่อกับสายน้ำ เห็นวิถีชีวิตที่ยังคงสัมพันธ์กับธรรมชาติ รวมถึงเห็นอาคารที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณราวกับออกแบบโดยสเตฟาโน โบเอรี วาคานด้าเป็นเมืองกลางป่าที่สวยงาม สงบสุขและมีเทคโลยีเป็นตัวเชื่อมผู้คนและธรรมชาติเข้าหากัน
Community Based Relation ชุมชนเมืองขนาดใหญ่ที่ผู้คนใกล้ชิดกัน
วาคานด้าเป็นเมืองในจินตนาการที่ผู้ออกแบบนึกถึงเมืองที่กลมกลืนและเติบโตขึ้นโดยมีอดีตและบริบทชุมชนรวมถึงวัฒนธรรมดั้งเดิมปรากฏอยู่ โดยในบรรยากาศของวาคานด้า เราได้เห็นภาพความสัมพันธ์ของผู้คนที่ค่อนข้างคล้ายกับชุมชนแบบดั้งเดิม คือผู้คนมีความใกล้ชิดกัน มีการค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าบริเวณท่าน้ำหรือตลาดเปิดโล่ง เมื่อเกิดภัยเราจะเห็นท่าทีของผู้คนที่พยายามช่วยเหลือกัน ความสัมพันธ์ในวาคานด้าคล้ายกับการจำลองภาพของสังคมพื้นเมืองที่มีความเป็นชุมชนและใกล้ชิดกันแม้จะอยู่ในเมืองที่มีขนาดมหึมาและเต็มไปด้วยคนแปลกหน้าก็ตาม
อ้างอิงข้อมูลจาก
Graphic Designed by Montree Sommut
- Vanat Putnark
Writer