ก่อนจะหมดเดือนไพรด์เราอยากชวนไปเยี่ยมเยียนย่านที่เรียกได้ว่าเป็นชุมชนเกย์แห่งแรกของโลก ความพิเศษคือย่านเกย์นี้ค่อนข้างเก่าแก่มาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ในสาธารณรัฐไวมาร์ ซึ่งก็คือเยอรมนีในช่วงปี 1919-1938 แน่นอนว่าความเป็นเกย์หรือกลุ่มเพศหลากหลายในสมัยนั้นยังไม่ได้รับการยอมรับ รวมถึงยังผิดกฎหมายอยู่ แต่ย่านเกย์ในทศวรรษ 1920 นับว่าเฟื่องฟูและเป็นชุมชนที่มีความหลากหลายก่อนถูกกำจัดในสมัยนาซีและมีการฟื้นฟูย่านขึ้นมาใหม่หลังจากนั้น
จากย่านเกย์แรกคือ Schöneberg เราจะเห็นว่าการก่อตัวขึ้นของชุมชนเพศหลากหลายมีมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 การรวมตัวกันของผู้มีความหลากหลายทางเพศจนก่อตัวเป็นย่านนำไปสู่การพัฒนาเมืองในรูปแบบหนึ่ง เกิดย่านที่มีความเข้มแข็ง เป็นพื้นที่ของเศรษฐกิจและความคิดสร้างสรรค์ จากย่านกินดื่มและย่านท่องเที่ยวจึงกลายเป็นย่านที่มีชีวิต และในทางกลับกัน มีงานศึกษาระบุว่าย่านที่เป็นย่านความหลากหลายทางเพศอาจสูญเสียความเป็นชุมชนไป มูลค่าที่ดินและราคาอสังหาฯ มักจะพุ่งสูงขึ้นในย่านจนอาจกลายเป็นเพียงจุดท่องเที่ยวที่ความเป็นชุมชนและการอยู่อาศัยค่อยๆ หายไป
Schöneberg ย่านเกย์แห่งแรกและกลิ่นอายของชุมชนสร้างสรรค์
เป็นเรื่องน่าประหลาดใจคือเมื่อเราย้อนดูชุมชนเกย์แรกๆ ของโลก กลับกลายเป็นว่าย่านเกย์มีมาตั้งแต่สมัยก่อนนาซี คือเรามักชี้ไปที่ย่าน Schöneberg พื้นที่ทางตอนเหนือของกรุงเบอร์ลิน ความเก่าแก่ของย่านในฐานะศูนย์กลางของชุมชนเกย์นั้นเริ่มต้นตั้งแต่ทศวรรษ 1920 คือเป็นสมัยที่เยอรมนียังเรียกตัวเองว่าสาธารณรัฐไวร์มาร์ ซึ่งถือว่าก่อนกาลมากเพราะพื้นที่สำคัญ เช่น สหรัฐอเมริกา บาร์เกย์และย่านเกย์ที่เปิดเผยอย่าง Stonewall ก็ก่อตัวขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 แล้ว
การก่อตัวขึ้นของย่าน Schöneberg ค่อนข้างคล้ายคลึงกับย่านเกย์อื่นๆ ในสมัยต่อมา คือมักเริ่มที่การเป็นพื้นที่ของกิจกรรมการกินดื่มของกลุ่มเกย์ เช่น ผับ บาร์ ร้านอาหารไปจนถึงคาเฟ่ เมื่อเกิดชุมชนจากไลฟ์สไตล์แล้ว กลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศก็เริ่มจับจองพื้นที่ มีการซื้ออสังหาริมทรัพย์ สร้างบ้านและกิจการอื่นๆ อยู่ในละแวกจนกลายเป็นชุมชนและเกิดเป็นย่าน
ความพิเศษในการก่อตัวขึ้นของย่านเกย์ในฐานะส่วนหนึ่งของการเติบโตของเมือง คือลักษณะเฉพาะบางประการของย่าน นั่นก็คือการที่ย่านเหล่านี้มักมีสีสันและไลฟ์สไตล์ รวมถึงมีความเป็นชุมชน เป็นพื้นที่ปลอดภัยจากพื้นที่ภายนอก พื้นที่ย่านนี้จึงมักเป็นพื้นที่สำคัญของกลุ่มเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กระทั่งมีระบบและกิจการเฉพาะที่มักเกี่ยวกับศิลปะและกิจการที่เกี่ยวเนื่องกัน
สำหรับย่าน Schöneberg เองก็เช่นเดียวกัน แรกเริ่มกลุ่มเพศหลากหลายเริ่มต้นจากการเปิดบาร์และไนต์คลับของกลุ่มเกย์หรือบาร์สำหรับเลสเบี้ยน จากการแฮงก์เอาต์ก็เริ่มมีกิจการอื่นๆ ในปี 1922 ย่านเกย์แห่งแรกนี้ค่อนข้างแข็งแรง นับเป็นพื้นที่แรกของโลกที่ใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยกระทั่งมีปกป้องสิทธิของกลุ่มเพศหลากหลาย ในช่วงที่ชุมชนเกย์แห่งนี้เฟื่องฟูนับว่าเป็นเขตศูนย์กลางของกลุ่มเกย์เบอร์ลิน
Schöneberg แข็งแรงถึงขนาดมีสื่อสิ่งพิมพ์ของตัวเอง มีโรงละคร มีสมาคมแรงงานกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน ความเฟื่องฟูของย่านเห็นได้จากแค่บนถนนสายเดียวบริเวณสถานี Nollendorfstrasse มีรายงานว่ามีร้านรวงและที่อยู่อาศัยของคนรักเพศเดียวกันกว่า 40 กิจการ นอกจากนี้ยังมีสตูดิโอของจิตรกรและช่างพิมพ์คนสำคัญไปจนถึงนักเขียนที่เขียนหนังสือและกลายเป็นละครเวทีเรื่องสำคัญคือคาบาเรต์ ก็ล้วนมีที่มาจากย่านและวิถีชีวิตในชุมชนเกย์ยุคแรกนี้
ความเฟื่องฟูของชุมชนเกย์ในเยอรมนียุคต้นสิ้นสุดลงเมื่อนาซีเรืองอำนาจ แน่นอนว่าสิ่งที่นาซีควบคุม กวาดต้อนและนำไปสังหารอย่างเป็นระบบในค่ายกักกัน นอกจากชาวยิวแล้ว กลุ่มคนรักเพศเดียวกันก็เป็นกลุ่มคนที่นาซีนำไปทิ้งร่วมกับกลุ่มอื่นๆ เช่น คนพิการ เป็นต้น
ย่านเกย์แห่งนี้ได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในทศวรรษ 1960 และกลายเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมเกย์และผู้มีความหลากหลายทางเพศของเบอร์ลินมาจนถึงปัจจุบัน การก่อตัวขึ้นของย่านในฐานะพื้นที่เมืองที่เติบโตขึ้นจากชุมชนเกย์นั้น มีข้อดีคือก่อให้เกิดการพัฒนา แต่ในที่สุดย่าน เช่น Schöneberg รวมถึงชุมชนเกย์อื่นๆ ก็อาจกำลังเจอปัญหาจากการพัฒนานั้นโดยเฉพาะราคาที่พุ่งสูงขึ้นจนขับไล่ผู้อยู่อาศัยออกไป
LGBTQ Urbanization และ Gaytrification
ลักษณะพิเศษของการที่ชุมชนเกย์ก่อตัวขึ้น คือการที่เมื่อผู้มีความหลากหลายทางเพศเริ่มตั้งถิ่นฐานทั้งบ้านและกิจการของตัวในย่านหนึ่งๆ ความเป็นชุมชนเกย์มักเชื่อมโยงกับศิลปะวัฒนธรรมที่มีความเฉพาะตัว ย่านนั้นๆ มักมีลักษณะที่ฉูดฉาดก้าวหน้าขึ้น สัมพันธ์กับศิลปะ เช่น ความเป็นอาวองต์-การ์ด บางครั้งชุมชนเกย์ส่วนใหญ่สัมพันธ์กับการฟื้นฟูเมืองโดยตรง คือแรกเริ่มจุดที่ชุมชนเกย์ไปเริ่มต้นอาจเป็นจุดอับของเมือง เป็นพื้นที่ที่หลีกเร้นหรือเป็นชุมชนที่เป็นมุมไม่ค่อยดีนัก หรือเป็นพื้นที่ที่ยังมีราคาไม่สูงมากนัก
แต่ลักษณะเฉพาะและความเป็นชุมชนของกลุ่มเพศหลากหลายทำให้บรรยากาศของย่านดึงดูดกลุ่มผู้อยู่อาศัยเฉพาะที่อาจเป็นคนในชุมชนเพศหลากหลายหรือไม่ก็ได้ แต่มักเป็นกลุ่มคนที่มีรสนิยมสูง เป็นผู้ทำงานเกี่ยวกับศิลปะและธุรกิจสร้างสรรค์ต่างๆ ในแง่นี้เราจึงเรียกกระบวนการรวมตัวและพัฒนาเมืองนี้ว่าเป็น LGBTQ Urbanization ทำให้เกิดย่านสร้างสรรค์ที่มีความก้าวหน้า รวมถึงมีความเป็นชุมชนรวมถึงการเป็นพื้นที่ของวิถีชีวิตทางเลือกด้วย
เมื่อชุมชนเกย์เติบโตขึ้น ย่านเกย์จึงกลายเป็นย่านที่มักเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนใหญ่ย่านเกย์สัมพันธ์กับกิจการบันเทิง เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวโดยเฉพาะการใช้ชีวิตยามค่ำคืน ตัวอย่างสำคัญคือย่านเกย์ Greenwich Village ตอนแรกกลุ่มเกย์เข้าไปใช้ชีวิตด้วยราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยังไม่สูงนัก เมื่อเกิดชุมชนแล้วราคาสินทรัพย์ในย่านพุ่งสูงขึ้น เมืองอื่นๆ ก็มีลักษณะทำนองเดียวกันนี้เกิดขึ้นเช่นกัน เช่น ฟิลาเดลเฟีย ในงานศึกษาของนักสังคมศึกษาพบว่าย่านที่มีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศหนาแน่น ราคาอสังหาริมทรัพย์มักสูงกว่าราคาทั่วไปอย่างน้อย 12%
ราคาที่พุ่งสูงขึ้น การดึงดูดความเคลื่อนไหวและบรรยากาศของย่าน รวมถึงการเป็นย่านที่ได้ประโยชน์จากประวัติศาสตร์และการเป็นย่านธุรกิจเฉพาะ เช่น ไนต์คลับ หรือพื้นที่ศิลปะอื่นๆ ปัญหาของย่านเกย์ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ปลอดภัยและประวัติศาสตร์ความเป็นชุมชนและการต่อสู้ จึงเกิดปัญหาการขับไล่ผู้มีรายได้น้อยหรือ gentrification ที่อาจเรียกด้วยนิยามว่าเป็นกระบวนการ gaytrification ออกไป ย่านเหล่านี้เสี่ยงต่อการกลายเป็นพื้นที่ที่หวือหวาฉูดฉาด เป็นปลายทางของการท่องเที่ยวที่กีดกันสมาชิกชุมชนที่มีรายได้น้อยออกจากพื้นที่อันเป็นปัญหาที่คล้ายกับปัญหาในการพัฒนาย่านธุรกิจและและย่านกลางเมืองอื่นๆ
ในแง่ความเคลื่อนไหว ตรงนี้พื้นที่เมืองก็เริ่มทำให้เกิดการกีดกันและแบ่งแยกขึ้น เช่น การกระจุกตัวของกลุ่มเกย์และผู้อยู่อาศัยที่ร่ำรวยในพื้นที่กลางเมือง ในขณะที่กลุ่มเกย์รายได้น้อยก็เลือกที่จะย้ายออกไปสร้างชุมชนใหม่ที่พื้นที่รอบนอก อาจมีความคิดที่เกี่ยวกับการกลับไปใช้ชีวิตในพื้นที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากว่ากลางเมือง ทว่า บางประเด็นของความหลากหลายทางเพศที่ยังมีปัญหา เช่น ในกลุ่มคนรักเพศเดียวกันเองก็ยังมีความหลากหลายทางสถานะทางเศรษฐกิจ ดัชนีโดยรวม เช่น ในสหรัฐพบว่ากลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศโดยเฉลี่ยมีฐานะยากจนกว่ากลุ่มรักต่างเพศ
ความน่าสนใจของการพัฒนาและพื้นที่เมืองที่สัมพันธ์กับกลุ่มเพศหลากหลายจึงเป็นพื้นที่ที่น่าสนใจ การพัฒนาที่มีความเฉพาะเจาะจงจากพื้นที่ทิ้งร้าง อย่างไรก็ตามเมื่อการกีดกันทางเพศและโลกเริ่มยอมรับความหลากหลายมากขึ้น ย่านเกย์รวมถึงพื้นที่เฉพาะของกลุ่มคนรักเพศเดียวกันก็ค่อยๆ ลดความสำคัญลง
อย่างไรก็ตามย่านเกย์บางส่วนสัมพันธ์กับการเป็นย่านที่ต่อสู้เรื่องสิทธิและปกป้องกลุ่มคนที่ถูกสังคมกีดกัน เป็นพื้นที่เพื่อดูแลและฟื้นฟูเยียวยาในส่วนอื่นๆ เช่น ประเด็นเรื่องผู้ติดเชื้อไปจนถึงกลุ่มอาชีพกลางคืน ปัจจุบันการต่อสู้เรื่องความหลากหลายรวมถึงย่านของความหลากหลายก็คงเป็นพื้นที่ปลอดภัยและช่วยเน้นย้ำเรื่องความหลากหลาย และอาจขยายไปยังกลุ่มความหลากหลายอื่นๆ เช่น ผู้พิการในมิติต่างๆ กลุ่มคนที่เป็นชายขอบของสังคม การต่อสู้เพื่อสิทธิอันหลากหลาย การแบ่งแยก การต่อสู้กับอคติของสังคม พื้นที่ย่านอันหลากหลายนี้ก็น่าจะยังมีความต้องการเฉพาะและอยู่ในสายตาของการพัฒนาในฐานะส่วนสำคัญหนึ่งของพื้นที่เมืองต่อไป
อ้างอิงข้อมูลจาก
mistosite.org.ua
alternativeberlin.com
- Vanat Putnark
Writer
- Montree Sommut
Graphic Designer