CITY CRACKER

ปรับบ้านเป็นออฟฟิศ ให้ชีวิตมี work-life balance  NUE CONNEX HOUSE DON MUEANG โฮมออฟฟิศรูปแบบใหม่ เชื่อมทุกเส้นทางให้ทุกชีวิต

พื้นที่สำคัญของกรุงเทพฯ มักเกิดขึ้นจากการตัดถนนใหม่ๆ หนึ่งในนั้นคือเส้นถนนหลวงอย่างถนนวิภาวดีและพหลโยธิน หรือที่คุ้นเคยกันว่า เส้นวิภาวดี-พหล ซึ่งก่อให้เกิดการขึ้นใหม่ของอาคาร บ้านเรือน ต่างๆ จำนวนมากจนขยายตัวนำมาสู่การเป็นย่านที่อยู่อาศัย และย่านธุรกิจที่น่าจับตามองในปัจจุบัน  ทำให้พื้นที่ที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทางขนานของถนนทั้งสองเส้นนี้เอง จึงเหมาะแก่การอยู่อาศัยและทำธุรกิจไปในตัว

โหนดของพื้นที่บริเวณแยกอนุสรณ์สถานแห่งชาติ หรือที่แยกตัว Y เป็นจุดบรรจบระหว่างถนนวิภาวดีและถนนพหลโยธิน จึงเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจในการอยู่อาศัย เนื่องจากเชื่อมต่อกับทั้งในและนอกเมือง พื้นที่ตรงนั้นยังเอื้อให้เกิดการใช้ชีวิตในเมืองที่เหมาะสม ไม่เร่งรีบเท่าพื้นที่ในเมือง ในขณะเดียวกันก็ยังมีโครงสร้างพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่นเดียวกับโครงการ NUE CONNEX HOUSE DON MUEANG จาก Noble development ที่มองเห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ ณ พื้นที่จุดตัดแห่งนี้ จึงได้ดึงเอาความพิเศษและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นระหว่างความเป็นย่านที่อยู่อาศัย และย่านธุรกิจ ผสมผสานออกมาเป็นบ้านโฮมออฟฟิศรูปแบบใหม่ที่เหมาะกับผู้คนในเมืองมากขึ้น จึงทำให้โครงการนี้เป็นโครงการหนึ่งที่น่าจับตามองและจับจอง นำไปสู่พื้นที่การอยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่น่าสนใจและเหมาะกับสังคมในปัจจุบัน

City Cracker ชวนมารู้จักกับโครงการ NUE CONNEX HOUSE DON MUEANG โครงการบ้านที่เหมาะกับการปรับเปลี่ยนเป็นพื้นที่ Home Office รายล้อมไปด้วยความหลากหลายของย่านทั้งธุรกิจและย่านที่อยู่อาศัย ตลอดจนตั้งอยู่ระหว่างถนนสำคัญอย่าง ‘วิภาวดี-พหล’ ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ใจกลางเมืองและต่างจังหวัด ทำให้การอยู่อาศัยสะดวกสบาย และน่าอยู่มากขึ้น

พิเศษ! โปรโมชั่น Cash Back รับเงินคืนสูงสุด 250,000 บาท กู้ 100%* ไม่ต้องดาวน์ กับราคาเริ่มต้นเพียง 9.29 ล้าน* วันนี้ ถึง 20 พฤศจิกายน 2565 เท่านั้น ลงทะเบียนรับโปรโมชั่น https://nobleurl.com/3W2S9CX

 

การขยายตัวของกรุงเทพฯ เพื่อรองรับการทำงานและอยู่อาศัยของคนเมือง

กรุงเทพฯ เป็นเมืองหนึ่งที่หนาแน่นไปด้วยผู้คนที่ต่างหลั่งไหลเข้ามาเพื่อเรียน ทำงาน และใช้ชีวิตในเมืองหลวงแห่งนี้ จึงทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่ขยายตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหนึ่งในการขยายตัวของเมืองที่เห็นได้ชัด คือการตัดถนนใหญ่สองเส้นสำคัญทางด้านทิศเหนือของเมือง เส้นหนึ่งคือถนนวิภาวดีและอีกเส้นคือพหลโยธิน โดยทั้งสองถนนนี้เป็นเส้นคู่ขนานกันที่มาบรรจบตรงจุดตัดห้าแยกลาดพร้าว การตัดถนนทั้งสองเส้นนี้ส่งผลหลายอย่างให้กับเมืองและผู้คน ทำให้การใช้ชีวิตของประชากรจากต่างจังหวัดหรือชานเมืองสามารถเดินทางเข้าสู่ด้านในตัวเมืองได้ง่ายขึ้น ด้วยการเชื่อมต่อของถนนทั้งสองเส้นนี้เอง

นอกจากนี้ถนนทั้งสองฝั่งยังมีเอกลักษณ์ชัดเจน คือฝั่งถนนวิภาวดีจากเดิมที่เคยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ก็เริ่มปรับเปลี่ยนเป็นเหมือน CBD หรือแหล่งธุรกิจใหม่ของเมืองที่เริ่มเต็มไปด้วยโครงการ mix used ขนาดใหญ่ต่างๆ  ในขณะเดียวกัน พื้นที่ฝั่งตรงข้ามอย่างพหลโยธินก็เป็น HUB ที่อยู่อาศัยของคนเมืองที่น่าสนใจอีกหนึ่งแห่ง ด้วยตัวย่านเต็มไปด้วยอาคาร ร้านรวง ตลาดสดและพื้นที่การศึกษาทั้งระดับมัธยมและระดับอุดมศึกษาซึ่งล้วนส่งผลดีและเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยมากขึ้น จากเอกลักษณ์ของพื้นที่ทั้งสองฝั่งนี้เองจึงทำให้ถนนที่คู่ขนานกันนี้เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ อีกหนึ่งความพิเศษของพื้นที่นี้คือเป็นเส้นทางที่เชื่อมต่อไปยังนอกเมือง โดยติดกันกับพื้นที่โซนรังสิต ที่เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เชื่อมต่อกันและยังคงมีการพัฒนาและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นบริเวณนี้ยังมีโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในอนาคตอันใกล้เพื่อเชื่อมต่อเมืองมากขึ้นอีกด้วย เช่น เส้นสะพานเชื่อมวิภาวดี-พหล จึงกล่าวได้ว่าพื้นที่ชานเมืองอย่าง วิภาวดี-พหลโยธิน เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่อยู่อาศัยและธุรกิจที่มีแนวโน้มจะเติบโตและขยายออกไปเรื่อยๆ เช่นกัน

 

จุดตัดของถนนสองเส้นสำคัญใกล้ทั้งขนส่งสาธารณะและสนามบินดอนเมือง

จากการขยายตัวของเมืองที่ทำให้เกิดการตัดถนนใหญ่ทั้งสองเส้นนี้เอง ส่งผลให้การเชื่อมต่อกรุงเทพฯ พื้นที่ชานเมือง และต่างจังหวัดสามารถเชื่อมต่อกันได้ทั่วถึงมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยรถโดยสารสาธารณะหรือ รถยนต์ส่วนตัว พร้อมกันนั้นยังมีโหนดหรือพื้นที่สำคัญระหว่างเส้นทางที่เพิ่มขึ้นตามมากับการตัดถนนทั้งสองเส้นนี้อีกด้วย

ด้วยถนนทั้งสองเส้นมีฐานะเป็นทางหลวงของแผ่นดิน โดยเส้นวิภาวดีมีความยาวตั้งแต่แยกใต้ด่วนดินแดง และไปสิ้นสุดโดยบรรจบกับถนนเส้นพหลโยธินที่ทางแยกต่างระดับอนุสรณ์สถาน จึงเป็นถนนเส้นที่ครอบคลุมพื้นที่ของเขตห้วยขวาง จตุจักร ไปจนถึงเขตดอนเมือง ในขณะเดียวกันถนนพหลโยธินก็ทอดยาวมาตั้งแต่ใจกลางเมืองคืออนุเสาวรีย์ ขนานกันและมีจุดตัดถนนเส้นวิภาวดี และไปจบที่เชียงราย ถนนทั้งสองเส้นนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงถนนที่นำผู้คนบริเวณชานเมืองอย่างคูคต และรังสิต เข้ามาสู่ใจกลางเมืองเท่านั้น แต่ยังเป็นถนนสองเส้นสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ ในภาคกลางตอนบน และภาคเหนืออีกด้วย

ถนนเส้นวิภาวดีและพหลโยธิน ไม่ได้สะดวกแค่การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเท่านั้น แต่ตัวพื้นที่ยังใกล้รถไฟฟ้า 2 เส้น  คือรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เชื่อมต่อนอกเมืองเข้าตรงกับใจกลางเมือง และรถไฟฟ้าสายสีแดงที่เชื่อมต่อไปยังสถานีกลางบางซื่อ เพื่อเปลี่ยนสายหรือเดินทางด้วยวิธีอื่นๆ ต่อได้อย่างสะดวกสบาย โดยทั้งสองเส้นสามารถขนส่งผู้คนเข้า-ออกเมืองได้จำนวนมากในแต่ละวัน พร้อมกันนั้นฝั่งเดียวกันกับรถไฟฟ้าสีแดงยังมีรถไฟไทยคอยให้บริการอยู่ด้วยเช่นกัน ไม่เพียงแค่การเชื่อมต่อภายในประเทศเท่านั้นที่ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายมากขึ้น แต่พื้นที่นี้ยังใกล้กันท่าอากาศยานดอนเมืองอีกด้วยที่ช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นไปอีก พื้นที่บริเวณนี้จึงเป็นพื้นที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองที่ยกระดับการเชื่อมต่อการคมนาคมไปอีกระดับ นอกจากนั้นแล้วกล่าวได้ว่าการเกิดขึ้นของถนนเส้นขนานสองเส้นนี้ ส่งผลดีต่อการคมนาคม พื้นที่อยู่อาศัย และอาคารสำคัญอื่นๆ ที่ตามมา

ห้าง ตลาด โรงพยาบาล และสถานศึกษาที่ไม่ไกลจากย่าน

ความน่าสนใจหนึ่งของพื้นที่นี้คือบริบทของพื้นที่ที่ที่ตั้งอยู่ใจกลางของถนนสองเส้นที่ตัดขนานกัน ส่งผลให้พื้นที่บริเวณโดยรอบเกิดขึ้นอย่างหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่พื้นที่ที่อยู่อาศัย พื้นที่ธุรกิจ ไปจนถึงพื้นที่บริการต่างๆ เช่น ตลาดสด โรงเรียน มหาวิทยาลัย ตลอดจนโรงพยาบาลและสนามกีฬา ที่เอื้อให้บริเวณย่านนี้ของเมืองน่าอยู่มากขึ้น

สำหรับพื้นที่อย่างห้างและตลาดสดกระจายอยู่อย่างมากมายเหมาะแก่การเลือกเข้าไปจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะ ตลาดสดแยกลำลูกกา ตลาดสี่มุมเมือง ตลาดสัมมากร เมืองเอก ตลาดรังสิต รวมถึงห้างดังๆ ที่ไม่ใกล้มากนักอย่าง Future park รังสิต หรือ Zeer รังสิต เองก็สามารถเชื่อมต่อถึงได้โดยง่าย สำหรับพื้นที่สถานศึกษาก็ประกอบไปทั้งระดับมัธยมศึกษา  เช่น รร.นายเรืออากาศฯ  รร.สายปัญญารังสิต รร.มัธยมสังคีตวิทยาฯ  รร.ฤทธิยะวรรณาลัย และระดับอุดมศึกษาก็ไม่ไกลกันทั้ง ม.รังสิต  ม.กรุงเทพ  และ ม.ธรรมศาสตร์ นอกจากนั้นแล้ว อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่ไม่ว่าจะเป็นย่านที่อยู่อาศัยหรือย่านธุรกิจที่จะขาดไปไม่ได้ นั่นคือโรงพยาบาล โดยบนถนนทั้งสองเส้นนี้เองก็ใกล้กันกับทั้งโรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชน เช่น รพ.บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ รพ แพทย์รังสิต รพ.ภูมิพลอดุลยเดช, รพ.ราชวิถี 2 (รังสิต) รวมถึงสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างสนามกีฬา พื้นที่นี้ก็มีเช่นเดียวกัน ทั้งสนามกีฬาธูปะเตมีย์ สนามกอล์ฟธูปะเตมีย์  สนามยิงปืนกองทัพอากาศดอนเมือง ตลอดจนอนุสรณ์สถานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกันจากพื้นที่เช่นเดียวกัน จากพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามมาจึงทำให้พื้นที่นี้เป็นอีกย่านหนึ่งที่น่าอยู่อาศัยและธุรกิจมากขึ้น

โครงการ NUE CONNEX HOUSE DON MUEANG ที่ปรับเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็น home office

ด้วยจุดสุดท้ายที่ถนนทั้งสองเส้นบรรจบกันคือแยกอนุสรณสถานแห่งชาติ ก่อนถึงคูคตและรังสิต พร้อมกันนั้นยังเป็นที่ตั้งของโครงการ  NUE CONNEX HOUSE DON MUEANG พื้นที่อยู่อาศัยรูปแบบใหม่ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็น home office ได้อย่างลงตัว จึงทำให้โครงการนี้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย และเริ่มต้นธุรกิจ อีกทั้งยังเชื่อมต่อถนน วิภาวดีและพหลโยธิน และบริบทของย่านอย่างเหมาะสมอีกด้วย

NUE CONNEX HOUSE DON MUEANG  คือโครงการที่อยู่อาศัยที่โดดเด่นทั้งในเรื่องของทำเล และฟังก์ชั่นการอยู่อาศัย ภายในโครงการประกอบไปด้วยบ้าน 3 รูปแบบ

1. TANGO – บ้าน Townhome ขนาด 3 ชั้น

2. GEMINI HOUSE บ้านหลังใหญ่ Double Volume ปรับเป็นโฮม Home Office ได้ เชื่อมชีวิตและธุรกิจได้อย่างลงตัว พื้นที่ใช้สอยเยอะ ขนาด 3 ชั้น 3 ที่จอด

3. OSCAR – Home office ขนาด 3 ชั้น Double Volume เพดานสูง 6.2 เมตร

สำหรับหนึ่งในจุดเด่นของโครงการนี้คือพื้นที่ของ Gemini House และ Home office ที่มีพื้นที่ใช้สอยถึง 220 ตร.ม. และมีหน้ากว้างถึง 7 เมตร สามารถจอดรถได้ถึง 3 คัน แปลนของพื้นที่สามารถปรับเปลี่ยน หรือออกแบบได้เองตามความเหมาะสม เพื่อเอื้อให้เกิดพื้นที่บ้าน หรือโฮมออฟฟิศที่แตกต่างกันไปตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย อีกหนึ่งจุดเด่นของโครงการคือทำเลที่สามารถเชื่อมต่อกับบริบทของพื้นที่และย่านโดยรอบ โครงการสามารถเข้า-ออก ได้ทั้ง 2 ทาง ทั้งฝั่งพหลโยธิน และวิภาวดี ที่ใกล้สนามบินดอนเมืองเพียง 5 นาที และเพียงนาทีเดียวสามารถขึ้นทางด่วนดอนเมืองโทลล์เวย์ได้ โครงการนี้ยังได้จัดวางให้บ้านโฮมออฟฟิศเริ่มต้นตั้งแต่ฝั่งวิภาวดียาวจนถึงฝั่งของถนนพหลโยธิน จึงทำให้พื้นที่บ้านของโครงการทางด้านซ้ายเชื่อมต่อกับย่านธุรกิจของเมืองได้ง่ายขึ้นอีกด้วย นอกจากนั้นการเชื่อมต่อกับย่านธุรกิจแล้ว พื้นที่ของโครงการทางฝั่งด้านขวายังเชื่อมต่อไปยังสถานที่บริการต่างๆ ของเมืองได้ง่ายขึ้น ทั้งตลาด โรงพยาบาล โรงเรียน และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจต่างๆ พื้นที่นี้จึงเหมาะแก่การเป็นทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและธุรกิจในเวลาเดียวกัน

ทางเข้า-ออก 2 ฝั่งถนนเชื่อมย่านธุรกิจและที่อยู่อาศัยให้สะดวกขึ้น

โครงการ NUE CONNEX HOUSE DON MUEANG ไมไ่ด้เป็นเพียงแค่โครงการที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นโครงการการอยู่อาศัยที่ใส่ใจและเข้าใจบริบทของย่านโดยรอบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้มากที่สุด  และด้วยความที่ถนนทั้งสองเส้นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน พื้นที่โครงการนี้จึงเป็นเหมือนตัวกลางที่เชื่อมโยงและผสมผสานทั้งความเป็นย่านธุรกิจจากฝั่งวิภาวดี และย่านที่อยู่อาศัยของพหลโยธินให้ลงตัวมากขึ้น ทางโครงการจึงเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัย ผ่านการสร้างพื้นที่เข้า-ออกจากทั้ง 2 ฝั่งถนน เพื่อเชื่อมต่อทั้งถนนทั้งสองเส้นเข้าไว้ด้วยกันมากขึ้น การเข้า-ออกโครงการนี้จึงสามารถทำได้ทั้งจาก 2 ฝั่งถนน และยังสามารถทะลุถึงกันได้ในเวลาไม่เกิน 10 นาที เพิ่มความสะดวกสบาย และง่ายต่อการเข้าถึงมากกว่าเดิม

จุดเชื่อต่อทุกแอคทิวิตี้ ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชั่น

นอกจากพื้นที่ใช้สอยของบ้านที่ปรับเปลี่ยนได้ตามใจผู้อยู่แล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของโครงการนี้คือพื้นที่ส่วนกลาง ที่เป็นจุดเชื่อมต่อแอคทิวิตี้ มีพื้นที่ตอบโจทย์กลุ่มคนทุกเจเนอเรชั่น ตั้งแต่เด็กเล็ก วัยรุ่น เพื่อนทำงาน จนไปถึงผู้ใหญ่ และผู้สูงวัย

ภายในพื้นที่ส่วนกลางประกอบไปด้วยหลายส่วน ส่วนแรกคือพื้นที่ Connex Social Club ที่เปิดโอกาสในผู้อยู่อาศัยสามารถมาร่วมกิจกรรม พบปะ พบเจอกันได้ในแต่ละวัน โดยภายในยังแยกออกมาเป็น The Athletic Club ที่เป็นห้องฟิตเนสสำหรับออกกำลังกาย ห้อง Yoga fly หรือห้อง Kids Club สำหรับเด็กๆ ตลอดจนพื้นที่พักผ่อน outdoor ด้านนอกที่ชวนให้นั่งสัมผัสกับบรรยากาศดีๆ ยามเย็น สระว่ายน้ำ Chillax Pool ที่แบ่งออกเป็นทั้งสระเด็กและสระผู้ใหญ่ อีกทั้งโต๊ะสนุ๊กและพื้นที่นั่งพักผ่อนที่จัดเตรียมไว้ให้ลูกบ้านสนุกสนานกันได้อย่างเต็มที่ในทุกวันและเวลา ครบทุกกิจกรรมไว้ในที่เดียว

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

home.co.th

prachachat.net

homenayoo.com

 

Share :