CITY CRACKER

6 งานออกแบบบนท้องถนนสำหรับคนติดมือถือ

เดี๋ยวนี้เราอยู่กับโลกออนไลน์กันตลอดเวลา เวลาเดินบางทียังอดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือออกมาดูซะหน่อย ส่งไลน์บอกเพื่อนอัพเดทเฟซบุ๊ก แต่ว่านี่มันถนนนะเพื่อน! เงยหน้ามาอีกทีอาจเป็นฉากสุดท้ายในชีวิต ยิ่งถนนเมืองไทย เดี๋ยวหลุม เดี๋ยวบ่อ เดี๋ยวสิ่งกีดขวาง ไหล่ทางก็ไม่มี เอาเข้าจริงก็รู้แหละเนอะว่าเดินบนถนนก็ควรมองทาง

 

ด้วยความที่โลกเปลี่ยน พฤติกรรมก็เปลี่ยนไป ปัญหาการกดมือถือทุกที่ทุกเวลากลายเป็นอีกปัญหาที่รัฐและนักออกแบบต้องจัดการ ต่างประเทศเรียกการเดินกดมือถือว่า distracted walkers ซึ่งมีรายงานว่าปัญหาเรื่องคนเดินใจลอยนี้กำลังเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการใจลอยจากการเล่นมือถือ… ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร แต่ที่น่ากังวลคือภาวะเดินไร้สติตาจ้องจอนี้สามารถนำไปสู่อุบัติเหตุ มีรายงานจากสหรัฐว่าในปี 2010 พบคนเดินถนนที่บาดเจ็บจากการเดินไปเล่นมือถือไปกว่า ‘2 ล้าน’ ราย ทางการสหรัฐบอกว่าปัญหานี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับเด็กวัยรุ่นอายุ 14-18 ซึ่งจากการสังเกตการณ์พบว่า 1 ใน 8 ของเด็กวัย 11-13 ปี ข้ามถนนไปส่งแชทไป (มันได้ที่ไหนละหนู!)

ไหนๆ ปัญหาก็เกิดแล้ว แถมนำไปสู่การสูญเสียในอนาคต นอกจากจะบ่นๆ กันแล้ว นักออกแบบและภาครัฐเลยออกมาช่วยป้องกันปัญหา โดยหลายประเทศพยายามดูแลพลเมืองที่แม้จะไม่ค่อยมีสติเท่าไหร่เท่าที่จะทำได้ เราจะพาไปดูงานออกแบบเพื่อความปลอดภัยของคนติดมือถือ ตั้งแต่งานน่ารักๆ ไปจนถึงงานขี้ประชดจากทั่วโลก

บางคนอาจบอกว่าการออกแบบแบบนี้มันจะสปอยล์กันเกินไปรึเปล่า แต่การมีนวัตกรรมที่ปรับไปตามพฤติกรรมก็แสดงถึงความห่วงใย ใส่ใจ อาจทำให้เราออกไปเดินดูบนท้องถนนว่านักออกแบบคิดและติดตั้งอะไรไว้เพื่อความปลอดภัยของเราบ้างนะ

 

+Lichtlijn, Netherlands

+Lichtlijn เป็นระบบทดลองที่ดูล้ำๆ จาก Dutch Traffic Safety Association หน่วยงานด้านความปลอดภัยบนท้องถนนของเนเธอแลนด์ ในเมื่อก้มหน้านักใช่มั้ย ถ้างั้นตรงจุดข้ามถนนก็ออกแบบเส้นไฟ LED หน้าตาล้ำสมัยล้อกับไฟเขียวไฟแดงลงไปที่พื้นซะเลย +Lichtlijn เป็นระบบทดลอง ติดตั้งไว้ที่แยกไฟเขียวไฟแดงในเมือง Bodegraven เป็นจุดข้ามถนนที่ใกล้กับโรงเรียนถึง 3 แห่ง ตรงนี้เองดูจะสอดคล้องกับรายงานที่บอกว่าเด็กๆ มักจะเดินเล่นมือถือขณะข้ามถนน แต่ในทางกลับกันตัวโครงการนี้ก็กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสม ว่าเป็นการแก้ที่ปลายเหตุมั้ย หรือนี่จะยิ่งส่งเสริมให้เดินกดมือถือ แล้วก่อให้เกิดอุบัติเหตุกันแน่

 

Stoplights, Germany

เยอรมันถือเป็นประเทศแรกๆ ที่ลงมือทดลองป้องกันอุบัติเหตุจากการเดินไปกดมือถือไป แนวคิดการป้องกันของเยอรมันก็คล้ายๆ กับของเนเธอแลนด์คือใช้ตุ่มไฟ LED ง่ายๆ แปะไว้ที่พื้นโดยไฟนี้จะส่องแสงเป็นสัญญาณสีเขียวสีแดงตามจังหวะสัญญาณไฟข้ามถนน โดยเยอรมันเริ่มทดลองระบบตั้งแต่ปี 2017 ในเมือง Augsburg ซึ่งแนวคิดหลักๆ ของไฟติดพื้นคือเตือนให้คนเดินถนนที่กำลังก้มหน้ากดมือถือระวังสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัว

 

Text walking lanes, Belgium/ China

ก้มหน้ากดมือถือกันนักใช่มั้ย ถ้างั้นก็กวาดไปเดินรวมกันในช่องทางเดียวซะเลย เจ้า ‘Text walking lane’ ก็คือการวางช่องทางเดินเฉพาะสำหรับคนที่เล่นมือถือไปเดินไป อารมณ์เดินช้าชิดซ้าย ซึ่งเจ้าทางเดินเฉพาะของคนติดมือถือได้ปรากฏขึ้นในหลายแห่งทั่วโลก จากในช่วงปี 2012 ที่ทางเดินเฉพาะนี้เป็นมุกตลกช่วงแอพริลฟูลเดย์ของทางการเมืองฟิลาเดเฟีย ในปี 2014 การแบ่งทางเท้าเป็นช่องของคนเล่นมือถือกับคนที่ไม่ได้เล่นเป็นส่วนหนึ่งในการทดลองของช่อง National Geographic เพื่อทดลองและสำรวจพฤติกรรมมนุษย์ว่าถ้ามีช่องทางให้เลือกระหว่างช่องเดินไว กับช่องเดินไปเล่นมือถือไป คนเดินถนนจะปรับพฤติกรรมตามช่องทางที่ถูกวางไว้ไหม

ล่าสุดเจ้าช่องทางสำหรับคนกดมือถือได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเมืองแล้ว ผลงานของร้านซ่อมมือถือในเบลเยี่ยมได้วาดเส้นทางแคบๆ ไว้เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะทำให้ทั้งคนทั้งมือถือบาดเจ็บ ในขณะที่เมืองฉงชิ่ง ทางการได้จัดการวาดเส้นไว้ที่ระยะ 100 และถือว่าเป็น ‘เส้นทางพิเศษสำหรับคนกดมือถือเลนแรกของเมืองจีน’ พอเลนพิเศษนี้กลายเป็นเลนทางการของภาครัฐก็กิดข้อถกเถียงว่าไอ้เจ้าเลนนี้มันเวิร์กจริงไหม เอาพวกจ้องจอไปกองรวมๆ จะได้เรื่องหรอ คนในช่องทางจะชนกันเองรึเปล่า

 

Airbags around lamppost, Austria/ UK

เพราะเราห่วงใย บางครั้งคุณอาจประสบปัญหาเดินกดมือถือแล้วเงยหน้ามาอีกทีก็ชนโครมเข้าให้ ทางการเลยบอกว่า ไม่เป็นไร เราจัดการเรื่องนี้ให้ ทางการจัดการแก้ให้ง่ายๆ ในแคมเปญห้องกันคนกดมือถือเจ็บตัว ด้วยการหุ้มนวมนุ่มๆ ใฟ้เสาไฟ โดยลอนดอนถือเป็นที่แรกๆ ที่หุ้มนวมเสาไฟบนถนนบริกเลนส์ในลอนดอน ปี 2017 เมืองซาลส์บวร์ก ประเทศออสเตรียก็จัดการหุ้มเสาไฟพร้อมข้อความรณรงค์ว่าด้วยเรื่องกดมือถือบนถนน ดูทรงแล้วทางการคงไม่ได้ตั้งใจให้นวมนุ่มๆ ป้องกันอุบัติเหตุ แต่คงต้องการให้เสาไฟบวมฉุทำให้เราคิดถึงประเด็นเรื่องความปลอดภัย และหันมาสนใจสิ่งรอบตัวมากขึ้น

 

Look Up, USA

เมืองนิวยอร์กเองก็เจอปัญหาคนมองแต่จอมือถือ  Ekene Ijeoma ศิลปินและนักออกแบบบอกว่าการเอาแต่มองจอมันไม่เวิร์ก นอกจากจะก่ออันตรายแล้วยังทำให้คนขาดปฏิสัมพันธ์กัน Ijeoma เลยสร้างแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือชื่อ ‘Look Up’ ขึ้นมา เจ้าแอพนี้เป็นแอพล้ำยุคที่ใช้การประมวลข้อมูลรอบๆ ตัวของเจ้าของ จากไวไฟ จีพีเอส และจะคอยเตือนคนใช้มือถือขณะที่มือถือเครื่องนั้นเคลื่อนที่เข้าใกล้สี่แยก เช่น ขณะที่เรากดๆ มือถืออยู่แล้วเข้าใกล้ทางข้าม มือถือเราจะสั่นและมีแอนิเมชั่นลูกตาสีสันสดใสน่ารักน่าเอ็นดูโผล่ขึ้นมาบนจอ เจ้าลูกตาจะหมุนขึ้นเป็นสัญญาณให้เรา ‘เงยหน้าขึ้นมอง(look up- ตามชื่อแอพ)’ เป้าหมายหลักๆ นอกจากช่วยลดอุบัติเหตุแล้ว ตัวแอพยังกระตุ้นให้คน ‘มองไปรอบๆ’ ตัว ในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองด้วย

 

99$ Fines, US

จากแค่การออกแบบ ไอเดียทดลอง วาดเส้นบนถนน คราวนี้กลายเป็นการบังคับใช้กฏหมายของภาครัฐ ปรับเงินกันไปเลย โฮโนลูลูในสหรัฐฯ ถือเป็นเมืองแรกที่ออกกฏหมายปรับคนข้ามถนนที่กดมือถือไปด้วย มีรายงานอัตราโทษปรับสำหรับความผิดครั้งแรกที่ 35 เหรียญสหรัฐ และที่ 75 เหรียญ จนถึง 99 เหรียญ (3 พันบาทก็ถือว่าหนักใช้ได้ทีเดียว)สำหรับความผิดครั้งต่อๆ ไป ก่อนหน้านี้ในปี 2016 ที่นิว เจอร์ซี่ ก็เคยมีการเสนอโทษปรับและจำคุกสำหรับคนที่เดินไปเล่นมือถือไป แต่ที่โฮโนลูลูถือเป็นรัฐแรกที่มีการบังคับใช้กฏหมายดังกล่าว ทางการบอกว่าถือเป็นมาตราฐานใหม่ของการบังคับใช้กฏหมายเพิ่มเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน

 

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

mobileye.com

independent.co.uk

smithsonianmag.com

6sqft.com

theguardian.com

dailymail.co.uk

dailymail.co.uk

 

Illustration by Maytissa Inharit
Share :