ประเด็นเรื่องการพัฒนาและอนุรักษ์พื้นที่ชายฝั่งกำลังเป็นกระแส เมื่อปีที่แล้ว ที่เกาะไหหลำ ประเทศจีนมีโปรเจกต์ที่น่าสนใจคือบริเวณเมืองไหโข่ว (Haikou) เมืองทางตอนเหนือของเกาะที่มีลักษณะเป็นพื้นที่ชายฝั่ง มีแนวชายหาดติดทะเลเป็นทางยาว เมืองไหโข่วนับเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ มีพื้นที่อ่าว โดยทางการมีเป้าหมายจะพัฒนาให้เกิดความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ
ความน่าสนใจของการพัฒนาพื้นที่แนวชายฝั่งนี้ คือทางเมืองไหโข่วเลือกที่จะวางให้ไหโข่วเป็นปลายทางการท่องเที่ยวโดยมีวัฒนธรรม (cultural) เป็นแกนของการพัฒนา ดังนั้น แผนหนึ่งของทางการคือการลงทุนสร้างพื้นที่ทางวัฒนธรรมขึ้น 16 แห่ง โดยทางเมืองได้ส่งหมายเชิญไปยังสตูดิโอออกแบบชั้นแนวหน้าของโลก ให้มาร่วมกันสร้างพื้นที่สาธารณะที่จะกลายเป็นวิถีชีวิตและพื้นที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่อไปในอนาคต
ชื่อของสตูดิโอที่ตอบรับเข้าร่วมสร้างพื้นที่วัฒนธรรมก็เป็นชื่อที่เราคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยล่าสุดเท่าที่มีการอัพเดทจากแผนในปี 2021 ที่ผ่านมา มีสองพื้นที่ที่เป็นรูปเป็นร่าง ที่แรกนั้นสร้างเสร็จเป็นหมุดหมายสำคัญและสร้างความฮือฮาไปทั่วโลกคือห้องสมุดทรงก้อนเมฆของ MAD Architect และแปลนอาคารส่าธารณะทรงริบบิ้นที่เป็นพื้นที่เปิดโล่งและอาคารสาธารณะแบบใหม่จาก Sou Fujimoto
![](https://citycracker.co/wp-content/uploads/2022/12/1_1.jpg)
16 สตูดิโอและศิลปิน เพื่อจินตนาการถึงชีวิตชายฝั่งรูปแบบใหม่
การลงทุนพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งของไหโข่วมีความน่าสนใจหลายด้าน โปรเจกต์พัฒนานี้มีชื่อว่า Pavilions by the Seaside หลักการสำคัญคือการสร้างพื้นที่ขึ้นมา 16 พื้นที่ โดยรวมเรียกว่าเป็น Pavilion ซึ่งจะถูกสร้างเป็นอาคารถาวรเพื่อเป็นจุดดึงดูดและเป็นพื้นที่จัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวต่อไป ความพิเศษของพาวิเลียนทั้ง 16 แห่งนี้ ทางเมืองได้เชิญนักออกแบบชั้นแนวหน้าเพื่อออกแบบ ‘จินตนาการของพื้นที่ชายฝั่งในอนาคต’ ต่อไป
ดังนั้นในโปรเจกต์นี้จึงมีความโดดเด่นทั้งการสร้างแลนด์มาร์กใหม่โดยเชิญนักออกแบบและศิลปินชั้นแนวหน้ามาสร้างหมุดหมายของคนรักสถาปัตยกรรม ทั้งยังเป็นการชวนนักออกแบบเหล่านั้นมาสร้างพื้นที่ที่ทำให้เราจินตนาการถึงการใช้งานแบบใหม่ๆ ที่สัมพันธ์กับชายฝั่งทะเล พื้นที่ที่จะถูกสร้างขึ้นใหม่นี้จึงนับเป็นการออกแบบพื้นที่สาธารณะที่มีบริบทเฉพาะทั้งในเชิงพื้นที่ทางธรรมชาติและบริบททางประวัติศาสตร์ของเมือง ตัวอาคารและพื้นที่ที่จะถูกสร้างขึ้นใหม่จะสะท้อนความกลมเกลียวของธรรมชาติ ของมนุษย์และของสิ่งปลูกสร้าง
![](https://citycracker.co/wp-content/uploads/2022/12/Haikou_City_Map.jpg)
ตามแผนที่ประกาศออกมาในปี 2021 โปรเจกต์นี้จะสัมพันธ์กับการพัฒนาย่านใหม่สองพื้นที่คือบริเวณอ่าวไหโขว่ (Haikou bay) และพื้นที่เมืองใหม่เจียงตง (Jiangdong New Area) โดยพาวิเลียนถาวรทั้ง 16 แห่งจะเรียงรายไปตามชายฝั่งของพื้นที่ทั้งสองส่วน ซึ่งจากประกาศอย่างเป็นทางการ สตูดิโอและศิลปินที่ตอบรับเข้าร่วมมีหลายชื่อที่คุ้นเคยทั้ง Sou Fujimoto, Bjarke Ingels, Stefano Boeri รวมถึง Thomas Heatherwick, MVRDV, Zaha Hadid รวมถึงองอาจ สาตรพันธุ์ สถาปนิกไทยเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าจะมีการร่วมงานระหว่าง Anish Kapoor ร่วมกับ Ryuichi Sakamoto นักแต่งเพลง และทำพาวิเลียนโดย Kengo Kuma เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดโปรเจกต์ที่รวมทีมระดับโลก
![](https://citycracker.co/wp-content/uploads/2022/12/Haikou_Bay_Pavilions.jpg)
จากประกาศโปรเจกต์ในปี 2021 อันที่จริงแผนการสร้างพาวิเลียนทั้ง 16 แห่งนั้นจะแล้วเสร็จในปลายปีเดียวกัน ล่าสุดอัพเดทโปรเจกต์ยังไม่มีการอัพเดทจากสตูดิโอสำคัญ แต่ตัวโครงก็มีความคืบหน้าคือมีโปรเจกต์เริ่มต้น คือพาวิเลียนแรกสร้างเสร็จแล้วคือห้องสมุดรูหนอน และมีแปลนอาคารสาธารณะทรงริบบิ้นที่เผยแปลนออกมาของฟูจิโมโตะ ทั้งสองพื้นที่ก็ถือว่าเปิดมุมมองใหม่ๆ ของพื้นที่อนาคในการอยู่ร่วมกับชายฝั่งและท้องทะเลได้อย่างน่าสนใจ
![](https://citycracker.co/wp-content/uploads/2022/12/Jiangdong_New_Area_Pavilions.jpg)
ก้อนเมฆแห่งไหโข่ว ห้องสมุดทรงโค้งริมทะเล
โปรเจกต์แรกหรือพาวิเลียนริมทะเลแห่งแรกในโปรเจกต์ของไหโข่วคือชื่อว่า Cloudscape of Haikou นำโดย Ma Yansong จาก MAD Architects โปรเจกต์นี้สร้างเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว โดยอาคารแห่งนี้ถูกสร้างให้เป็นทั้งห้องสมุดที่เปิดพื้นที่ให้ผู้คนหลบหนีจากความวุ่นวายของเมือง เข้ามาอ่านหนังสือในอาคารทรงก้อนเมฆ ชมคลื่นและท้องทะเล
![](https://citycracker.co/wp-content/uploads/2022/12/02_MAD_The_Cloudscape_of_Haikou_by_CreatAR_Images.jpg)
ด้วยหน้าตาของอาคารที่เล่นกับเส้นสายทรงโค้งและช่องอาคารที่ดูแปลกตา พื้นที่ใหม่นี้จึงได้ชื่อเล่นว่าเป็นห้องสมุดรูหนอน (Wormhole Library) ตัวอาคารแห่งนี้สวยงามโดดเด่นราวประติมากรรม ผู้ออกแบบระบุว่าผู้มาใช้งานจะได้มองเห็นท้องฟ้าและผืนน้ำในมุมที่แปลกออกไปจากรูปทรงของอาคารและหน้าต่างทรงกลม
การก้าวเข้าสู่อาคารแห่งนี้ ด้วยรูปทรงและวัสดุที่ดูบิดโค้งแต่ทว่าเชื่อมต่อกัน รูปทรงของอาคารประกอบขึ้นด้วยรูปทรงที่เป็นธรรมชาติ มีช่องว่างที่ทำให้คอนกรีตและความโค้งมนของอาคารเชื่อมต่อเข้ากับท้องฟ้ากว้างใหญ่ของท้องทะเล การก้าวเข้าสู่อาคารจึงเหมือนกับเป็นการเข้าสู่มิติและห้วงเวลาที่มีความเฉพาะตัว ราวกับว่าเวลาได้หยุดลงในอาคารแห่งนี้สมกับฉายาห้องสมุดรูหนอน เป็นพื้นที่หลีกหนีที่เชื่อมต่อผู้คนเข้ากับธรรมชาติ
![](https://citycracker.co/wp-content/uploads/2022/12/10_MAD_The_Cloudscape_of_Haikou_by_ArchExist.jpg)
แม้ว่าอาคารก้อนเมฆนี้จะมีความโดดเด่นและแปลกประหลาด แต่ตัวอาคารถูกออกแบบโดยเน้นฟังก์ชั่นใช้งานเท่าๆ กับรูปทรงแปลกตาแห่งอนาคต ตัวอาคารใช้รูปทรงและความสงบรวมถึงธรรมชาติเพื่อส่งเสริมกิจกรรมการอ่าน เป็นห้องสมุดที่ทั้งล้ำสมัยและเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ นึกภาพการได้นั่งในอาคารทรงก้อนเมฆ อยู่ในรูหนอนที่พาเราตัดขาดออกจากโลกภายนอก ชมท้องทะเลและฝืนฟ้าไกลผ่านช่องอาคารและหน้าต่างที่เหมือนกับว่าเราเองได้หนีไปอยู่ในดาวดวงอื่นซักครู่
ห้องสมุดก้อนเมฆนี้เป็นหมุดหมายแรกที่สร้างเสร็จและเปิดให้บริการไปแล้ว ตัวอาคารนอกจากจะใช้เป็นห้องสมุด เป็นพื้นที่หย่อนใจแล้วยังจะเปิดพื้นที่ในการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่างๆ ต่อไป Ma Yansong กล่าวว่าอาคารแห่งนี้ได้รับการออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน การวางหมุดหมายแรกของพื้นที่ทางวัฒนธรรมและศิลปะสำหรับเขา คือการสร้างอาคารที่มีความเป็นศิลปะ เป็นสิ่งที่จับต้องได้ เข้าใช้ได้จริง ไม่ใช่ห้องสมุดขนาดมหึมาหรืองานที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้
![](https://citycracker.co/wp-content/uploads/2022/12/17_MAD_The_Cloudscape_of_Haikou_by_ArchExist.jpg)
หลังคาริบบิ้นเดินได้และโปรเจกต์อื่นๆ
นอกจากห้องสมุดที่สร้างเสร็จไปแล้ว ในโปรเจกต์เปลี่ยนริมฝั่งให้เป็นพื้นที่ใหม่ก็ยังมีข้อมูลบางส่วนจากทาง Sou Fujimoto ที่เผยผังอาคารของพาวิเลียนด้วย โดยตัวอาคารของฟูจิโมโตะมีลักษณะเป็นอาคารเปิดโล่งทรงกลม หน้าตาเหมือนกับริบบิ้นที่ล้อมสวนสีเขียวไว้ ตัวพาวิเลียนนี้มีความโดดเด่นจากรูปทรงและการใช้งานที่เน้นออกแบบเพื่อการเดิน หลังคาทรงริบบิ้นจะทำหน้าที่เหมือนอัฒจรรย์และทางเดินที่ลดหลั่นไปจนถึงสวนที่เป็นศูนย์กลาง
ความน่าสนใจของพาวิเลียนนี้จึงเป็นการออกแบบพื้นที่สาธารณะแบบเปิดโล่ง ความโดดเด่นของอาคารคือการที่ตัวริบบิ้นและสวนมีหน้าตาเหมือนกับคลื่นน้ำ ทรงกลมของอาคารล้อไปกับพื้นที่อ่าวที่ตัวอาคารตั้งอยู่ ถ้าเรามองจากอีกด้านของชายหาด อาคารแห่งนี้จะมีหน้าตาเหมือนกับฟองคลื่นที่บิดเกลียวอยู่บนฝั่ง ล้อไปกับภูมิทัศน์รอบๆ อย่างสวยงาม
นอกจากหลังคาริบบิ้นบนพรายฟอง ก็ยังมีโปรเจกต์อื่นๆ อีก โดยทาง Anish Kapoor ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Dezeen เกี่ยวกับโปรเจกต์พาวิเลียนนี้ว่าตัวเขาเองได้วางแผนจะใช้หินภูเขาไฟและภูมิทัศน์อื่นๆ เข้ามารวมในงานที่กำลังออกแบบอยู่ โดยความน่าตื่นเต้นคือตัวเขาจะทำงานร่วมกับริวอิจิซากาโมโต้โดยมีเคงโกคุมะร่วมในโปรเจกต์ แปลว่าพื้นที่พาวิเลียนของทั้งสามสุดยอดศิลปินและนักออกแบบจะสัมพันธ์ทั้งกับสถาปัตยกรรม ประติมากรรมรวมถึงดนตรีที่เข้ามาร่วมสร้างภาพแห่งอนาคตและพื้นที่ใช้งานใหม่ด้วย
จากโปรเจกต์ที่ดูมหึมานี้ ข้อมูลล่าสุดจากแผนเดิมที่พาวิเลียนต่างๆ จะเสร็จในปีเดียวกันยังไม่มีอัพเดทเพิ่มเติม เราเองก็คงต้องจับตาดูความคืบหน้าของการพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งของไหหลำที่เลือกจะใช้สถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมเพื่อสร้างความเคลื่อนไหวต่อไป โดยโปรเจกต์ทางวัฒนธรรมในพื้นที่ชายฝั่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาหลักของไหหลำที่จะเปิดเกาะไหหลำเป็นเมืองท่าเสรี
อ้างอิงข้อมูลจาก
Graphic Designed by Supatsorn Boontumma
- Vanat Putnark
Writer