กรุงเทพฯ อาจจะเป็นเมืองที่ดูแน่นขนัดและทำให้เราต้องเร่งรีบ แต่เมืองนี้ก็ยังเต็มไปด้วยย่านเมืองต่างๆ ที่ให้เราได้ลองใช้ชีวิตช้าลง อยู่กับตัวเอง พร้อมดื่มด่ำกับธรรมชาติและสภาพแวดล้อมรอบตัว หนึ่งในนั้นคือย่าน ‘ราษฎร์บูรณะ’ ย่านที่กระเถิบตัวออกไปไม่ไกลจากโซน CBD ของกรุงเทพฯ และมีทำเลที่ตั้งติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื้อเชิญให้เราใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น บวกกับได้ใช้ชีวิตแบบ Slow life ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลๆ เพราะธรรมชาติที่ใกล้ที่สุดก็คือหน้าบ้านเรา ซึ่งทัศนียภาพจากแม่น้ำหน้าบ้านนั้นก็สามารถทำให้เราได้ปล่อยวางจากสิ่งที่ดูจะยุ่งเหยิงจากในเมืองและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีได้มากขึ้นกว่าเดิม
วันนี้เรากำลังจะได้ใกล้ชิดริมน้ำมากกว่าที่เคย ผ่านการมีพื้นที่อยู่อาศัยริมน้ำ หรือที่เราเรียกกันว่า บ้านริมน้ำ ซึ่งกรุงเทพฯ เองก็ไม่ได้มีบ้านริมน้ำมาให้เห็นกันบ่อยๆ โครงการนั้นก็คือ ‘Noble Aqua Riverfront Ratburana’ โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ติดริมน้ำเจ้าพระยาที่ให้เราสามารถสัมผัสกับวิวโค้งน้ำได้อย่างเต็มที่ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Oneness with the river’ จากทาง Noble Development ที่เล็งเห็นถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนเมืองให้สัมพันธ์ไปพร้อมๆ กับธรรมชาติ ให้ธรรมชาติกลับมาเป็นส่วนหนึ่งกับชีวิตอีกครั้ง รวมถึงการให้ความสำคัญของการเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกบ้านไม่ว่าจะเป็นทำเล การออกแบบ ประสบการณ์การอยู่อาศัย ให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้ชีวิตแบบพิเศษและไม่เหมือนใครจากแนวคิด The Rare Selection By Noble
ในช่วงที่เรากำลังหลีกหนีความวุ่นวายกลางเมือง City Cracker ชวนไปสำรวจประสบการณ์การอยู่อาศัย ทั้งในแง่ของการดีไซน์ที่เฉพาะตัวและตอบโจทย์จาก Iconic Riverfront Villa บ้านทรงจั่วที่ให้บรรยากาศเหมือนพักตากอากาศริมน้ำ ทัศนียภาพริมน้ำที่โอบรับเราเห็นวิวสะพานถึง 2 สะพานทั้งสะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล ตลอดจนคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้นจากการอยู่อาศัยในโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana ให้พื้นที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมริมน้ำช่วยสานความฝันและความหมายของการใช้ชีวิต
ทางโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana จะเปิดให้เข้าชมบ้านจริงเป็นครั้งแรกและพร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการแล้ว ใครที่สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม และเข้าชมโครงการก่อนใครได้ที่ : https://bit.ly/3EFgeID
รู้จัก Noble Aqua Riverfront Ratburana
บ้านริมน้ำตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการพื้นที่พักอาศัยแบบเฉพาะตัว
ปัจจุบันวิถีชีวิตของเราเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เราเริ่มเข้าสู่ยุคสมัยที่ให้ความหมายกับการพักอาศัยที่พิเศษและหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเริ่มหนีออกห่างเมือง กลับไปอยู่ใกล้กับธรรมชาติ ตลอดจนเริ่มไม่อยากเดินทางไปทำงาน หรือไปไหนไกลๆ ใช้เวลากับบ้านและพื้นที่ละแวกบ้านมากขึ้น ทำให้พื้นที่อยู่อาศัยจึงเป็นพื้นที่ของกิจกรรมตลอด 24 ชั่วโมงตั้งแต่ตื่น กิน ทำงาน ออกกำลังกายและนอนหลับข้ามไปอีกวัน
ราษฎร์บูรณะ คือหนึ่งพื้นที่ชั้นนอกของเมืองที่อยู่ถัดไปไม่ไกลจากตัวเมืองชั้นในมากนัก พร้อมให้เราได้ทดลองมีไลฟ์สไตล์แบบใหม่ที่เฉพาะตัวได้ ผ่านการมีทำเลติดริมแม่น้ำและอยู่ในละแวกเดียวกับพื้นที่ธรรมชาติกลางเมืองอย่างบางกระเจ้า ไม่มีความวุ่นวายของกิจกรรม และห้อมล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบย่าน บวกกับสามารถเดินทางเข้าถึงตัวเมืองได้ง่ายในหลายๆ ย่าน ทำให้ราษฎร์บูรณะเป็นทำเลทองของการพักอาศัยที่น่าสนใจในอนาคต
Noble Development ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของพื้นที่อยู่อาศัยแบบใหม่และเฉพาะตัว ให้เข้ามาช่วยเติมเต็มความฝันและความหมายของการใช้ชีวิต จึงได้พัฒนาคอลเล็กชันใหม่ The Rare Selection By Noble ซึ่งถือเป็น Limited Collection ขึ้นมาในย่านราษฎร์บูรณะ เพื่อให้เราได้ใช้ชีวิตภายในพื้นที่อยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบายอย่างไม่เหมือนใคร ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่ม มีความกว้างขวางและครบครัน ตลอดจนให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าที่เคย ผ่าน 3 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่ Rare Location ทำเลการอยู่อาศัยที่พิเศษ ทั้งความสะดวกในการเข้าถึงเมืองชั้นในและการมีสภาพแวดล้อมให้เราได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ Rare Design แนวทางการออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างความแตกต่าง ทั้งฟังก์ชันการใช้งาน ความสวยงาม และ Rare Experience การสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ให้เราได้โอบรับความสะดวกสบายแบบพิเศษ พร้อมให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติอย่างยั่งยืน ตลอดจนสามารถสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่าง ผ่านการอยู่ร่วมกันในสังคมที่คัดสรรแล้วและปลอดภัย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของคนยุคใหม่ โดยมีเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน
ครั้งนี้เราจะพาไปรู้จักกับ Noble Aqua Riverfront Ratburana 1 ใน 2 โครงการจากคอลเล็กชันใหม่ The Rare Selection By Noble ที่มุ่งเน้นให้เราได้กลับไปอยู่ร่วมกับธรรมชาติอีกครั้ง ให้ร่างกายของเราได้ใกล้ชิดกับสภาพแวดล้อมรอบตัวมากกว่าที่เคย พร้อมเปิดผัสสะทั้ง 6 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง กาย และใจไปกับสายน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่ง Noble Aqua นี้ยังถือเป็นโครงการแรกในกรุงเทพฯ ที่จะช่วยสานฝันให้กับคนที่อยากมีบ้านติดริมแม่นํ้ำ ผ่านแนวทางการออกแบบที่เฉพาะตัวที่ส่งเสริมให้บ้านที่คุณอยู่อาศัย ไม่ใช่แค่การมีบ้านที่ตั้งอยู่ริมน้ำทั่วๆ ไป
โดยแกนหลักสำคัญของการพัฒนาโครงการนั้นก็คือ การสร้างอัตลักษณ์ที่แตกต่าง ทั้งในแง่ความสวยงามจากตัวอาคารภายนอกและฟังก์ชันพิเศษภายในบ้านที่ออกแบบมาพิเศษเฉพาะตัว และไม่สามารถพบเห็นได้จากโครงการอื่นๆ ด้วยการดีไซน์ตัวผังและตัวบ้านริมน้ำที่ตอบโจทย์ ให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติผ่านทิวทัศน์ริมแม่น้ำอย่างสมดุลและเท่าเทียม ไปจนถึงให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งกับวิถีริมน้ำ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Oneness with the River’
Oneness with the River
บ้านเดี่ยวริมน้ำที่ผสานดีไซน์และประสบการณ์อยู่อาศัยให้เป็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำและธรรมชาติ
Oneness with the River เป็นแนวทางสำคัญจากทาง Noble Aqua Riverfront Ratburana ที่จะทำให้เราได้หลีกหนีความวุ่นวายกลางเมือง ตลอดจนพบกับความต้องการที่ตอบโจทย์มากขึ้น ให้เราได้มีพื้นที่อยู่อาศัยที่กว้างขวางไม่ต้องทนอยู่กับความแออัด กิจกรรมที่หนาแน่น และมลพิษที่รุมเร้าจากในเมือง ผ่านการผสานตัวบ้านและพื้นที่กิจกรรมของโครงให้เป็นหนึ่งเดียวกับสภาพแวดล้อมรอบโครงการที่นิ่งสงบนั้นก็คือสายน้ำจาก ‘แม่น้ำเจ้าพระยา’ แม่น้ำสายสำคัญของประเทศ ที่เป็นทั้งเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงเกษตรกรรมของภาคกลางและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ
จากแนวคิดการผสานที่อยู่อาศัยเข้ากับสายน้ำ ทำให้ตัวบ้าน พื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนตัวผังโครงการมีไอเดียการออกแบบที่เชื้อเชิญให้ธรรมชาติเข้ามาเป็นเหมือนเพื่อนสนิทในโครงการ โดยเข้ามาชุบชูคุณภาพชีวิตของเราให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าวิวทิวทัศน์ สายลม สายน้ำ และแสงแดด ลองคิดดูก็ได้ว่าว่าหากเรามีบ้านริมน้ำที่สามารถเอนกายในตัวบ้านพร้อมรับลมชมวิวพระอาทิตย์ตก ได้กลิ่นไออ่อนๆ ของดินและน้ำ มีเสียงคลื่นน้ำกระทบเบาๆ มันจะดีสักแค่ไหน
Noble Aqua จึงเป็นโครงการที่ถูกพัฒนาได้อย่างตอบโจทย์ เพื่อให้เราได้กลับไปอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกับธรรมชาติอีกครั้ง โดยได้ผู้ออกแบบอย่าง IAW และ Landscape Tectonix เข้ามาร่วมออกแบบให้เป็นบ้าน Riverfront ที่พิเศษและสมบูรณ์โดยไม่ถูกลดทอนบรรยากาศของการเป็นที่พักอาศัยริมน้ำไป
สิ่งแรกที่ทางผู้ออกแบบให้ความสำคัญเลยคือเรื่องของ ‘View’ ซึ่งเป็นการการออกแบบผังและตัวบ้านให้บ้านทุกหลังสามารถรับเอาทัศนียภาพจากแม่น้ำมาเพิ่มพลังงานดีๆ ในการอยู่อาศัย ต่อมาคือ ‘Visual’ การลำดับความสำคัญของพื้นที่ในตัวบ้านแบบใหม่ เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถรับวิวแม่น้ำจากภายในบ้านสู่ภายนอกได้ในจุดที่ดีที่สุด นั้นก็คือการนำเอาพื้นที่ห้องรับแขกและห้องทานข้าวขึ้นไปอยู่ชั้นบนไม่เหมือนบ้านปกติทั่วไป โดยมี ‘Void’ หรือการออกแบบตัวบ้านแต่ละหลังให้มีช่องว่างระหว่างกัน ผ่านการวางช่องเปิดและปิดให้ไม่ตรงกัน เพื่อสร้างมุมมองในการมองเห็นแม่น้ำ ตลอดจนสร้างความเป็นส่วนตัวและไม่เกิดความอึดอัดภายในโครงการ ซึ่งช่องว่างที่ถูกเว้นไว้ยังกลายมาเป็นพื้นที่สีเขียวให้กับตัวบ้าน และสุดท้ายคือเรื่องของการลดปริมาณอาคารหรือ ‘Volume’ ด้วยการสร้างรูปทรงจั่ว เพื่อให้ภาพรวมของโครงการไม่หนาแน่นเกินไป ตลอดจนโอบรับเอาทัศนียภาพริมน้ำได้อย่างเต็มที่
5 รูปแบบ 53 หลัง แบบบ้านที่หลากหลาย ตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่เฉพาะตัว
Noble Aqua Riverfront Ratburana นับว่าเป็นโครงการบ้านจัดสรรที่มีการออกแบบมาไม่เหมือนโครงการอื่นๆ ผ่านผืนที่ดินริมน้ำขนาดใหญ่กว่า 15 ไร่ เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่แตกต่างกว่า 5 รูปแบบ รวมแล้วทั้งหมด 53 ยูนิต ซึ่งตัวบ้านทุกหลังก็ถูกออกแบบมาอย่างเข้าใจเพื่อให้เราลูกบ้านได้ผูกพันธ์กับสายน้ำ พร้อมโอบรับคุณภาพชีวิตที่ดีๆ รวมไปถึงมีความเรียบง่ายและหรูหรา ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีบ้านริมน้ำที่พิเศษและเฉพาะตัว
ขนาดของตัวบ้านจะมีขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 56.5 ตร.ว. ไปจนถึง 182.3 ตร.ว. โดยแบ่งได้ทั้งหมด 5 รูปแบบ ดังนี้ ประเภทแรก VIA 01 บ้านขนาดเริ่มต้นและเล็กสุดของโครงการ มีพื้นที่ดินประมาณ 56.5 – 57.9 ตร.ว. และมีพื้นที่ใช้สอยรวม 346 ตร.ม. โดยบ้านรูปแบบ VIA 01 นี้จะมีความสูงเพียง 3 ชั้น มีห้องนอน 3 ห้องนอน และห้องน้ำ 4 ห้องน้ำ มี Private Lift พร้อมที่จอดรถหน้าบ้านได้ถึง 3 คัน ซึ่ง VIA 01 นี้จะมีจำนวนทั้งสิ้น 15 หลัง เหมาะแก่กลุ่มครอบครัวขนาดเล็กที่ต้องการความเป็นส่วนตัวไม่ได้ต้องการพื้นที่กว้างขวางในตัวบ้านมาก
VIA 02 เป็นตัวบ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยโดยมีพื้นที่ดินประมาณ 63.3 – 65.2 ตร.ว. และมีพื้นที่ใช้สอย กว่า 421 ตร.ม. VIA 02 จะมีความสูงถึง 4 ชั้น แบ่งเป็นห้องนอน 4 ห้องนอน และห้องน้ำ 5 ห้องน้ำ มี Private Lift พร้อมที่จอดรถหน้าบ้านได้ถึง 3 คัน เช่นเดียวกับ VIA 01 แต่ตัว VIA 02 นี้จะเป็นประเภทบ้านที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการโดยมีมากถึง 20 หลัง
ต่อมา PARC เป็นประเภทของบ้านที่อยู่ติดพื้นที่สีเขียวกลางโครงการ เห็นวิวของสวน และได้ Garden Court ในทุกหลัง โดย PARC จะมีขนาดพื้นที่ดินประมาณ 71.1 – 71.8 ตร.ว. และมีพื้นที่ใช้สอยรวม 527 ตร.ม. มีควาสูง 4 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และมีห้องเอนกประสงค์ไว้ใช้งาน 1 ห้อง พร้อม Private Lift และที่จอดรถมากถึง 4 คัน ประเภทของบ้านสวนนี้จะมีทั้งหมด 14 หลังแบ่งเป็น 2 ฝั่งฝั่งละ 7 ขนาบไปกับสวนเขียว
VUE จะเป็นประเภทบ้านที่ทำให้เราได้เห็นวิวของแม่น้ำได้ชัดมากขึ้น ซึ่งมีเพียง 2 หลังเท่านั้นเท่านั้น โดย VUE จะเป็นแบบบ้านที่มีผืนที่ดินค่อนข้างใหญ่ซึ่งกว้างถึง 83.3. ตร.ว. และมีพื้นที่ใช้สอยรวม 658 ตร.ม.
และสุดท้ายคือ ORA ประเภทบ้านที่มีพื้นที่ติดริมน้ำมากที่สุด มีทั้งสิ้น 2 หลัง โดยแบ่งออกเป็น ORA01 แบบบ้านขนาดใหญ่ที่มีความกว้างของที่ดินถึง 161.1 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอยรวม 779 ตร.ม. และ ORA02 แบบบ้านขนาดใหญ่พิเศษสุด โดยมีความกว้างของที่ดินถึง 182.3 ตร.ว. มีพื้นที่ใช้สอยรวม 795 ตร.ม.
Iconic Riverfront Villa
บ้านทรงจั่วที่เปิดรับวิวสายน้ำและสายลม พร้อมให้เราอยู่อย่างสะดวกสบายและปลอดภัย
ความพิเศษอีกอย่างของโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana ก็คือตัวบ้าน Iconic Riverfront Villa ที่ผ่านการดีไซน์มาแบบพิเศษโดยคำนึงถึงบริบทของพื้นที่ ผู้อยู่อาศัย สภาพแวดล้อม และความสวยงามของตัวบ้านทั้งภายนอกและภายในไปพร้อมๆ กัน ตลอดจนมีการเลือกใช้วัสดุเป็นหินธรรมชาติมาใช้ในโครงการ ให้สอดคล้องกับภาพรวมกับโครงการและช่วยสร้างความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
Iconic Riverfront Villa นี้จะเป็นบ้านรูปแบบ Modern Contemporary 3 ชั้นที่ดูอบอุ่นพร้อมโอบกอดเรา เน้นรูปทรงของหลังคาเป็นทรงจั่วเพื่อลดทอนความเป็นทรงสี่เหลี่ยมและสร้างลักษณะเฉพาะให้เด่นชัดยิ่งขึ้น รวมถึงมีการออกแบบระเบียง หรือ Moon Deck แบบ Ourdoor ในจุดที่พิเศษของบ้านให้เราสามารถออกไปดูวิว รับเอาความสวยงามและพลังงานธรรมชาติมาจากแม่น้ำและพื้นที่สวนของโครงการได้
พร้อมกันนั้นตัวบ้านก็มีการเปิดช่องกระจกอย่างเต็มที่ เพื่อเน้นการมองเห็นแม่นํ้าอันเป็นบริบทสำคัญของย่าน มีการเปิดช่องจากตัวบ้านให้ลมพัดผ่านเข้ามาเพื่อสร้างความสบาย ซึ่งช่องนั้นยังถูกใช้เป็น Courtyard ของตัวบ้านได้ และในส่วนบ้านบางประเภทอย่าง Parc ก็ยังมีการคำนึงถึงการรับเอาประโยชน์จากสวนเขียวของโครงการมาใช้เป็นพื้นที่สุขภาวะได้ และได้วิวถึง 4 ระเบียงทั้งฝั่งหน้าบ้าน และสวนหลังบ้าน
นอกจากนั้นแล้ว Iconic Riverfront Villa ยังมีความพิเศษที่คงหาไม่ได้จากที่ไหน นั่นก็คือการกําหนดให้พื้นที่ส่วน Living อย่างห้องรับแขก ครัว และห้องทานข้าวขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 และ 3 พร้อมดันเพดานขึ้นให้สูงโปร่งเพื่อเปิดมุมมองให้เรามองเห็นแม่น้ำได้อย่างเต็มที่ ถือว่าไม่เหมือนโครงการอื่นๆ ที่พื้นที่รับแขกนี้จะอยู่ชั้นล่าง สิ่งนี้ทำให้เราเห็นว่าบ้านจาก Noble Aqua เป็นบ้านที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องไปกับบริบทของธรรมชาติจริงๆ
และเหนือสิ่งอื่นใด Noble Aqua ยังมีการออกแบบที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มทุกช่วงวัยด้วยหลักการ Elderly Support Design ที่รองรับการอยู่อาศัยไม่ว่าจะ Eldery Support ตามจุดต่างๆ เช่น มีทางลาดเข้าบ้านจากลานจอดรถให้กับผู้สูงอายุ มีพื้นดูดซับแรงกระแทกที่ชั้นล่างห้องน้ำที่ออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานวีลแชร์หรือการมี Private Lift เพื่อให้ขึ้นไปได้ในชั้น 2 และ 3 ทุกยูนิต ประกอบกับมีห้องลับใต้หลังคาแบบ Indoor ปรับทำได้หลายอย่างไว้สำหรับเด็กที่ต้องการห้องส่วนตัว หรือเป็นห้อง Maid Quarter และห้องเก็บของก็ได้
ตัวบ้านทุกหลังของโครงการยังถูกจัดเต็มมาด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น งานระบบสำหรับติดตั้ง EV Charger ให้กับบ้านทุกหลัง เพื่อตอบสนองเทรนด์การประหยัดพลังงานเพื่อความยั่งยืน ตลอดจนระบบหมุนเวียนอากาศ SCG Active Air Quality เติมอากาศบริสุทธิ์ พร้อมถ่ายเทความร้อนภายในบ้านให้เย็นสบายตลอดวัน
สุดท้ายเรื่องสำคัญมากคือเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย โครงการก็มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลลูกบ้านให้พิเศษได้ตลอด 24 ชั่วโมง สร้างความมั่นใจในการอยู่อาศัย เข้า – ออก โครงการด้วยระบบคีย์การ์ดพร้อม Double Gates และระบบ Home Automation ภายในตัวบ้าน
Riverfront Clubhouse and Garden Clubhouse
พื้นที่ส่วนกลางที่ให้เราได้ใกล้ชิดริมน้ำมากกว่าที่เคย
Clubhouse ภายในโครงการก็ถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของ Noble Aqua Riverfront Ratburana เพราะเป็นโครงการที่มี Clubhouse ถึง 2 ส่วนด้วยกัน ทำให้สามารถเข้าถึงได้ไม่ว่าจะอยู่โซนไหนของโครงการ
ไม่ว่าจะ Riverfront Clubhouse พื้นที่สวนกลางที่อยู่ติดริมแม่นํ้าแบบไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ให้เราได้ผ่อนคลายกับบรรยกาศของโค้งน้ำ เห็นทั้งวิวแม่น้ำและวิวสะพานไม่ว่าจะสะพานพระราม 9 และสะพานภูมิพล
โดยมี Riverfront Lounge ห้องรับรองส่วนกลางที่ พร้อม Co-Kitchen สำหรับจัด Private Dinner / สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก พร้อม Riverfront Terrace สำหรับพักผ่อนชมวิวและซึมซับบรรยากาศริมแม่น้ำได้ในทุกวัน ซึ่งรูปแบบของตัวอาคาร Riverfront Clubhouse นี้ ก็ได้มีการดีไซน์โดยใช้สามเหลี่ยมราบจรดพื้นคล้ายพีรามิด จากรูปทรงนี้ทำให้ตัว Clubhouse สามารถใช้แสดงเป็น Landmark ของโครงการที่สามารถมองเห็นจากสะพานข้ามแม่น้ำได้อย่างชัดเจนและเป็นที่จดจํา
ในส่วน Garden Clubhouse จะอยู่ติดกับพื้นที่สีเขียวของโครงการ หรือ Garden Court ที่สร้างประสบการณ์ระหว่างทางเดินไปสู่ริมน้ำด้วยผ่านแมกไม้นานาพรรณที่ทำให้เราได้เห็นวิวแม่น้ำสุดลูกหูลูกตา โดย Garden Clubhouse จะประกอบไปด้วยห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์ชั้นนำแบรนด์ Technogym เติมพลังกายในทุกวันไปพร้อมกับชมวิวสวนขนาดใหญ่ที่ทอดยาวเชื่อมต่อกับ River Clubhouse
เอนกายริมน้ำอย่างผ่อนคลายบนทำเล ‘ย่านราษฎร์บูรณะ’
ที่เชื่อมต่อความสะดวกสบายและการเดินทางทุกรูปแบบ
นอกจากความสะดวกสบายภายในโครงการแล้วบริบทรอบๆ Noble Aqua Riverfront Ratburana ก็ถือว่าส่งเสริมให้ผู้อยู่อาศัยได้รับคุณภาพชีวิตที่ดีไม่ต่างจากย่านอื่นๆ ครบครันในการอยู่อาศัยทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะโรงเรียน King’s College, Shrewbury International School, Basis International School Bangkok โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชันแนล โรงพยาบาลสมิติเวช ธนบุรี ศาสนสถานในย่าน รวมถึงละแวกใกล้เคียงก็มีดิสเคาน์สโตร์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโฮมโปร พระราม 3 Terminal 21 พระราม 3 Sena Fest จนถึง ICONSIAM ให้ได้ไปเดินเล่นและจับจ่ายใช้สอย
และด้วยความที่ย่านราษฎร์บูรณะเป็นย่านที่กระเถิบตัวออกไปไม่ไกลจากตัวเมืองชั้นในมากนัก สามารถเดินทางเข้าถึงตัวเมืองได้ง่ายไม่ว่าจะพระราม 3 สาทร สีลม ยานนาวา เจริญกรุง เจริญนคร และยิงยาวไปถึงคลองเตย ซึ่งล้วนเป็นแหล่งงานสำคัญของคนทำงานหลากหลายแขนง รวมถึงในตัวย่านเองก็มีอดีตสำนักงานใหญ่ของธนาคารกสิกรไทย มีแหล่งการค้าแบบธุรกิจรายย่อย มีอาคารพาณิชย์เรียงรายตามถนน และมีคลังสินค้าขนาดเล็กอยู่ร่วมไปกับชุมชน การจ้างงาน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในย่านจึงมีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เกิดเป็นการหมุนเวียนรายได้ทั้งในระดับย่านและชุมชน ทำให้ราษฎร์บูรณะเป็นย่านที่โอบรับเราด้วยแหล่งงานและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของเมือง
ปัจจุบันย่านราษฎร์บูรณะกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากการขยายตัวของกรุงเทพฯ ฝั่งใต้ เพื่อรองรับการค้าขายที่เกิดขึ้นและการขนส่งสินค้ารวมไปถึงการมีผู้คนทยอยเข้ามาอยู่อาศัย ซึ่งเปลี่ยนโฉมของการเป็นเรือกสวนไร่นาของคนเมืองเดิม มาเป็นย่านพักอาศัยและแหล่งพาณิชยกรรมขนาดย่อมของกรุงเทพฯ ในทางเดียวกันก็เป็นหนึ่งในไม่กี่ย่านของเมืองกรุงที่มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งนับว่าเป็นข้อดีในการพัฒนาแหล่งพักอาศัย เพราะนอกจากจะมีภูมิทัศน์ที่ดีในการอยู่อาศัยแล้ว ผลของทำเลยังทำให้ราคาที่ดินของย่านเติบโตขึ้นทุกปี สามารถดึงดูดผู้พักอาศัยและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมและบ้านหรูระดับ Luxury และ Ultra Luxury โดยเฉพาะในส่วนของโซนพระราม 3 – ราษฎร์บูรณะ เรียกได้ว่าเป็นโซนที่น่าจับตามองมากที่สุดในช่วงนี้ เนื่องจากที่ดินและราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นราคาที่จับต้องได้ เมื่อเทียบกับโซนอื่นๆ และที่สำคัญยังได้รับเป็นวิว Riverfront ติดริมแม่น้ำที่เห็นทั้งวิวเมืองและยังมีวิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่อย่างบางกระเจ้าอีกด้วย
นอกจากการมีชัยภูมิที่ติดกับแม่น้ำที่ส่งผลให้เกิดความเจริญและความสะดวกสบายแล้ว ราษฎร์บูรณะยังทำหน้าที่เป็นถนนสายหลักที่คอยเชื่อมต่อกับถนนเส้นอื่นๆ โดยวางตัวคู่ขนานไปกับแนวเจ้าพระยาทำให้ตัวย่านมีความสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองและกระจายความหนาแน่นของการจราจรไปยังถนนต่างๆ ที่เชื่อมต่อกันได้ ในทางเดียวกันตัวถนนก็มีช่องจราจรที่กว้างขวางสามารถแบ่งทิศทางการวิ่งรถได้ชัดเจน มีซอกซอยที่ค่อนข้างน้อย ทำให้มีความคล่องตัว ตัดปัญหาการเลี้ยวเข้าเลี้ยวออกได้ดี รวมไปถึงมีทางพิเศษเฉลิมมหานครเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งระหว่างพื้นที่รอบเมืองต่างๆ ให้สามารถขนส่งสินค้าจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเดินทางผ่านการจราจรที่หนาแน่นบริเวณใจกลางเมือง
สำหรับขนส่งสาธารณะก็ไม่ไกลจากตัวย่าน มีรถไฟฟ้า BTS สายสายสีลมคอยให้บริการโดยมีสถานีสถานีวงเวียนใหญ่และกรุงธนบุรีเป็นสถานีที่ใกล้ตัวย่านมากที่สุด และในอนาคตก็กำลังจะมีโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ที่จะเปิดให้บริการภายในปี 2570 เป็นการเดินรถจากบางใหญ่-บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ผ่านเขตเมืองชั้นใน โดยมีสถานีที่เกิดขึ้นภายในย่านถึง 2 สถานีได้แก่ สถานีราษฎร์บูรณะและสถานีประชาอุทิศ ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะมีผลให้ย่านราษฎร์บูรณะมีการเปลี่ยนแปลง คือมีราคาที่ดินที่สูงมากขึ้น เพราะสามารถสร้างการเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ของกรุงเทพฯ ได้หลายทิศทาง
สำหรับบ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้จะมีทั้งหมด 2 แบบด้วยกันนั่นก็คือ VIA 02 และ PARC
บ้านตัวอย่างหลังแรก VIA02 มีพื้นที่ดินประมาณ 63.3 – 65.2 ตร.ว. และมีพื้นที่ใช้สอย กว่า 421 ตร.ม. โดย VIA 02 จะมีความสูงถึง 4 ชั้น แบ่งเป็นห้องนอน 4 ห้องนอน และห้องน้ำ 5 ห้องน้ำ มี Private Lift พร้อมที่จอดรถหน้าบ้านได้ถึง 3 คัน สิ่งที่พิเศษของบ้านประเภทนี้คือ Moon Deck แบบ Ourdoor ในจุดที่พิเศษของบ้านที่ให้เราสามารถออกไปดูวิว รับเอาความสวยงามของแม่น้ำได้ โดย VIA 02 นี้จะมีราคามเริ่มต้นที่ 36.9 ล้านบาท
ต่อมาคือประเภท PARC บ้านที่อยู่ติดพื้นที่สีเขียวกลางโครงการมีพื้นที่มีขนาดพื้นที่ดินประมาณ 71.1 – 71.8 ตร.ว. และมีพื้นที่ใช้สอยรวม 527 ตร.ม. มีควาสูง 4 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และมีห้องเอนกประสงค์ไว้ใช้งาน 1 ห้อง พร้อม Private Lift และที่จอดรถมากถึง 4 คัน
ประเภทของบ้านสวนนี้จะมีทั้งหมด 14 หลังแบ่งเป็น 2 ฝั่งฝั่งละ 7 ขนาบไปกับสวนเขียว ทำให้เห็นวิวของสวน และได้ Garden Court ในทุกหลัง โดยชั้น 2 จะเป็นระแนงไม้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวจากบ้านฝั่งตรงข้าม และมีการนำเอา Living Area ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 3 เพื่อให้ไม่ชนกับ Living Area ของ VIA ที่อยู่ชั้น 2 ซึ่งในส่วนของ PARC จะมีราคาเริ่มต้น 47.9 ล้านบาท*
อ้างอิงข้อมูลจาก
ddproperty.com
webportal.bangkok.go.th
citycracker.co