CITY CRACKER

โอบรับทัศนียภาพริมน้ำ เชื่อมต่อธรรมชาติและความเฉพาะตัวผ่านย่าน ‘ราษฎร์บูรณะ’ กับโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana ที่พาเราไปออกแบบไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ไม่เหมือนใคร 

ดูเหมือนว่าปัจจุบันวิถีชีวิตคนเมืองแบบเราๆ เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป เราเริ่มเข้าสู่ยุคสมัยที่ให้ความหมายกับการพักอาศัยในมุมที่พิเศษและหลากหลายมากขึ้น เช่น การเริ่มหนีออกห่างเมือง การวาดฝันครอบครัวที่ไม่มีลูก การอยู่อาศัยกับเพื่อนฝูงจนถึงบั้นปลาย ตลอดจนวิถีชีวิตการทำงานที่ไม่ได้ผูกติดอยู่กับออฟฟิศกลางเมือง

พื้นที่ทางกายภาพจึงสัมพันธ์กับความฝันและความหมายของการใช้ชีวิต ซึ่งในท้ายที่สุดก็จะกลับมาสัมพันธ์กับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และส่งผลกับหน้าตาของเมืองและคุณภาพชีวิตของผู้คน ที่สำคัญคือพื้นที่รอบๆ ขอบของเมืองใหญ่นี้ยังพอมีพื้นที่กว้างขว้างและโอกาสที่จะช่วยสร้างรูปแบบการอยู่อาศัยที่หลากหลายและเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น

Noble Development ได้เล็งเห็นถึงพื้นที่รอยต่อของเมืองที่สัมพันธ์ไปกับวิถีของคนเมืองในยุคใหม่ ทั้งความหลากหลายของรูปแบบการใช้ชีวิต ไปจนถึงคุณภาพของความสุขที่เพิ่มมากขึ้นจากการหลีกหนีความวุ่นวายกลางเมือง จึงได้พัฒนาคอลเล็กชันใหม่ The Rare Selection By Noble ขึ้น โดยหนึ่งในพื้นที่ของคอลเล็กชันนั้นก็คือย่าน ‘ราษฏร์บูรณะ’ ภายใต้ชื่อโครงการ ‘Noble Aqua Riverfront Ratburana’

ราษฎร์บูรณะ คือหนึ่งพื้นที่ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงเทพฯ ที่อยู่ถัดไปไม่ไกลจากตัวเมืองชั้นในมากนัก ติดริมแม่น้ำ ห้อมล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกโดยรอบย่าน บวกกับสามารถเดินทางเข้าถึงตัวเมืองได้ง่ายในหลายๆ ย่านอย่างพระราม 3 สาทร สีลม ยานนาวา เจริญกรุง เจริญนคร และคลองเตย ซึ่งล้วนเป็นแหล่งงานสำคัญของคนทำงานและธุรกิจหลากหลายแขนง ทำให้ราษฎร์บูรณะเป็นทำเลทองของการพักอาศัย

City Cracker จึงอยากพาไปสำรวจย่านราษฏร์บูรณะ ย่านที่โอบรับทัศนียภาพริมน้ำและเชื่อมต่อกับธรรมชาติ ตลอดจนความเฉพาะตัวในการอยู่อาศัยที่แตกต่าง ทั้งในแง่ของการดีไซน์ที่เฉพาะตัวและประสบการณ์ใหม่ในการอยู่อาศัยจากโครงการ Noble Aqua Riverfront Ratburana  โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ติดริมน้ำเจ้าพระยาที่ให้เราสามารถสัมผัสกับวิวโค้งน้ำได้อย่างเต็มที่

หลบหนีความวุ่นวายกลางเมืองด้วยทำเลอยู่อาศัยที่เชื่อมต่อเข้ากับธรรมชาติและความเฉพาะตัว

ทุกวันนี้พื้นที่เมืองกำลังประสบกับปัญหาความแออัด กิจกรรมที่หนาแน่นและวุ่นวาย มลพิษที่รุมเร้า และทำให้เราได้ห่างหายจากพื้นที่ธรรมชาติมากขึ้น ใจกลางเมืองที่เราเคยพูดกันว่าเป็นพื้นที่ที่ตอบโจทย์ในการอยู่อาศัย ในวันนี้อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ถ้าเรายังต้องเผชิญกับรถติด กลิ่นน้ำเน่าเหม็น ฝุ่นควัน ตลอดจนความเร่งรีบที่ทำให้ชีวิตเราไม่เป็นตัวเอง

เพื่อให้เราได้หลีกหนีความวุ่นวายกลางเมือง ตลอดจนพบกับความต้องการที่หลากหลายของการอยู่อาศัย Noble จึงได้พัฒนา The Rare Selection By Noble ขึ้นมาเพื่อให้เราได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น ในพื้นที่กว้างขวางตลอดจนตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการที่อยู่อาศัยแบบใหม่และเฉพาะตัว ซึ่งคอลเล็กชันนี้จะเป็น Limited Collection ที่พิเศษสุดเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงและมีนิยามของความชอบที่ไม่เหมือนใคร หรือ ‘Rare Seeks Rare’ ผ่าน 3 องค์ประกอบสำคัญ ได้แก่

Rare Location ทำเลการอยู่อาศัยที่พิเศษต่อการพัฒนาโครงการ ทั้งความสะดวกในการเข้าถึงเมืองชั้นใน การมีแวดล้อมโดยรอบที่ให้เราได้อยู่ร่วมกับธรรมชาติ ตลอดจนเป็นที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัดในเมือง เป็นที่ต้องการของนักพัฒนาหลายๆ เจ้า

Rare Design แนวทางการออกแบบที่มุ่งเน้นการสร้างความแตกต่าง ทั้งฟังก์ชันการใช้งาน ความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร และไม่สามารถหาได้จากโครงการไหนๆ นอกจากที่นี่เท่านั้น

Rare Experience การสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ให้เราได้โอบรับความสะดวกสบายแบบพิเศษจากธรรมชาติ พร้อมให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งกับธรรมชาติอย่างลงตัวและยั่งยืน

จากองค์ประกอบทั้ง 3 นี้ทำให้ Noble ได้เปิดตัวโครงการออกมาเป็น 2 โครงการเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น Noble Terra Rama 9 – Ekamai บ้านเดี่ยวบนทำเลใจกลางพระราม 9-เอกมัย ภายใต้คอนเซปต์ ‘Oneness with the Nature’ ให้เราได้เชื่อมต่อกับธรรมชาติอย่างสงบภายในโครงการ และ Noble Aqua Riverfront Ratburana บ้านเดี่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในย่านราษฎร์บูรณะ ทำเลแห่งการเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมือง รวมถึงได้โอบรับทิวทัศน์ริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นการพัฒนาที่ทำให้เราได้รับทัศนียภาพและได้ประโยชน์จากวิวแม่น้ำอย่างเต็มที่ภายใต้คอนเซปต์ ‘Oneness with the River’

ในครั้งนี้เรามาเริ่มทำความรู้จักกับ Noble Aqua ผ่านการอ่านทิวทัศน์ทำเลทองริมน้ำเจ้าพระยาที่น่าจับตาของย่านราษฎร์บูรณะ พร้อมความสะดวกสบายของย่านที่จะพาเราไปออกแบบไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่ไม่เหมือนใคร

 

‘ราษฎร์บูรณะ’ ย่านเศรษฐกิจใหม่ไม่ไกลเมืองกับการเชื่อมต่อเมืองทุกระบบ

มาเริ่มทำความรู้จักกับตัวย่านราษฎร์บูรณะกันก่อน ราษฎร์บูรณะเป็นย่านที่กระเถิบตัวออกไปไม่ไกลจากตัวเมืองชั้นในมากนัก สามารถเดินทางเข้าถึงตัวเมืองได้ง่ายและสะดวกในหลายๆ ย่านทั้งพระราม 3 สาทร สีลม ยานนาวา เจริญกรุง เจริญนคร และยิงยาวไปถึงคลองเตย ซึ่งล้วนเป็นแหล่งงานสำคัญของคนทำงานหลากหลายแขนง โดยมีสะพานพระราม 9 สะพานเสาขึงระนาบเดี่ยวแห่งแรกของประเทศไทยคอยเชื่อมทั้ง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่

ในช่วงปี 2540 ย่านราษฎร์บูรณะเริ่มมีโอกาสในการเปลี่ยนแปลงหน้าตาของย่านเป็นย่านเศรษฐกิจมากขึ้น จากการที่อดีตสำนักงานใหญ่ของธนาคารกสิกรไทยเข้ามาก่อตั้งตัวอาคารภายในย่าน ซึ่งภาครัฐในยุคนั้นเองก็มีหมุดหมายในการทำให้ย่านราษฎร์บูรณะเป็นพื้นที่ทางธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพฯ จึงเกิดเป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่ต่อยอดมาจากสีลม-สาทร เหล่านี้ทำให้ราษฎร์บูรณะมีความสามารถในการเชื่อมต่อกลับไปยังพื้นที่แหล่งเศรษฐกิจเดิมของเมือง

ด้วยความที่ราษฎร์บูรณะเป็นย่านที่ก่อตัวขึ้นมาจากการเป็นถนนสายหลักที่คอยเชื่อมต่อกับถนนเส้นอื่นๆ โดยวางตัวคู่ขนานไปกับแนวเจ้าพระยาเริ่มตั้งแต่แนวคลองดาวคะนอง ไปจนถึงแนวคลองบางพึง ทำให้ตัวย่านมีความสามารถเชื่อมต่อเข้าสู่ตัวเมืองและกระจายความหนาแน่นของการจราจรไปยังถนนต่างๆ ที่เชื่อมต่อกันได้ ในทางเดียวกันตัวถนนก็มีช่องจราจรที่กว้างขวางสามารถแบ่งทิศทางการวิ่งรถได้ชัดเจน มีซอกซอยที่ค่อนข้างน้อย ทำให้มีความคล่องตัว ตัดปัญหาการเลี้ยวเข้าเลี้ยวออกได้ดี

ภายในย่านยังมีทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นสายแรก เพื่อเชื่อมต่อการคมนาคมขนส่งระหว่างพื้นที่รอบเมืองต่างๆ ให้สามารถขนส่งสินค้าจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องเดินทางผ่านการจราจรที่หนาแน่นบริเวณใจกลางเมือง

ในส่วนของขนส่งสาธารณะนั้นถัดออกไปไม่ไกลก็มีรถไฟฟ้า BTS สายสายสีลมที่คอยให้บริการ โดยมีสถานีสถานีวงเวียนใหญ่และกรุงธนบุรีเป็นสถานีที่ใกล้ตัวย่านมากที่สุด ซึ่งในอนาคตราษฎร์บูรณะก็กำลังจะมีโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงใต้ที่จะเปิดให้บริการภายในปี 2570 ซึ่งเป็นเส้นทางส่วนต่อขยายจากสายสีม่วงปัจจุบัน เป็นการเดินรถจากบางใหญ่-บางซื่อ-ราษฎร์บูรณะ ผ่านเขตเมืองชั้นในซึ่งสามารถรองรับบริการการเดินทางของประชาชนฝั่งเมืองเก่าได้ โดยในย่านนี้จะมีสถานีที่เกิดขึ้นภายในละแวกย่านถึง 2 สถานีได้แก่ สถานีราษฎร์บูรณะและสถานีประชาอุทิศ ซึ่งหากโครงการแล้วเสร็จจะมีผลให้ย่านราษฎร์บูรณะมีการเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลดีกับพื้นที่โดยรอบมีราคาที่ดินสูงมากขึ้น เพราะสามารถสร้างการเดินทางไป-กลับยังพื้นที่ย่านที่ห่างออกไปได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

การเติบโตของย่านผ่านทิวทัศน์โค้งน้ำเจ้าพระยาที่ราคาจับต้องได้

ปัจจุบันย่านราษฎร์บูรณะกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากการขยายตัวของกรุงเทพฯ ฝั่งใต้ เพื่อรองรับการค้าขายที่เกิดขึ้นและการขนส่งสินค้าจากจังหวัดสมุทรปราการและสมุทรสาคร โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารทะเล อาหารแปรรูป อะไหล่ และเครื่องมือ ที่เข้ามาทางอ่าวไทย ตลอดจนการได้รับอิทธิพลของธุรกิจและผู้คนบางส่วนมาจาก อำเภอพระประแดง ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีคนอยู่อาศัยหลายเชื้อชาติ ทำให้ราษฎร์บูรณะเติบโตขึ้นมาด้วยความหลากหลายทั้งจากผู้คน ธุรกิจ และรูปแบบกิจกรรม รวมไปถึงการมีผู้คนทยอยเข้ามาอยู่อาศัย ซึ่งเปลี่ยนโฉมของการเป็นเรือกสวนไร่นาของคนเมืองเดิม มาเป็นย่านพักอาศัยและแหล่งพาณิชยกรรมขนาดย่อมของกรุงเทพฯ

ในทางเดียวกันราษฎร์บูรณะยังเป็นหนึ่งในไม่กี่ย่านของกรุงเทพฯ ที่มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งนับว่าเป็นข้อดีในการพัฒนาแหล่งพำนัก ตลอดจนการตั้งถิ่นฐานของแหล่งงานต่างๆ เพราะนอกจากจะมีภูมิทัศน์ที่ดีในการอยู่อาศัยแล้ว ผลของทำเลยังทำให้ราคาที่ดินของย่านเติบโตขึ้นทุกปี

ตลาดอสังหาริมทรัพย์พื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาจึงเริ่มมีการเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546 และมีความคึกคักมากขึ้น หลังจากการมีแผนการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นริมฝั่งแม่น้ำ เช่น Asiatique The Riverfront และ ICONSIAM ซึ่งชี้ชัดว่าพื้นที่ริมแม่น้ำมีความสามารถในการดึงดูดผู้พักอาศัยและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมและบ้านหรูระดับ Luxury และ Ultra Luxury

ในกรุงเทพฯ บ้านเราสามารถแบ่งตลาดอสังหาริมทรัพย์ไปเติบโตริมแม่น้ำได้ออกเป็น 4 โซนหลักๆ ตามรอยโค้งน้ำเจ้าพระยา ไม่ว่าจะเป็นโซนของสนามบินน้ำ-นนทบุรี ซึ่งเป็นส่วนขยายตัวของเมืองมายังบริเวณชานเมือง โซนจรัญสนิทวงศ์ – บางโพ ที่ใกล้เมืองเก่า โซนเจริญกรุง – เจริญนคร โซนยอดฮิตของการเข้ามาอยู่อาศัยและทำธุรกิจจากการอยู่ใกล้แหล่ง CBD ตลอดจนโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ และโซนพระราม 3 – ราษฎร์บูรณะ โซนที่ไม่ไกลจากตัวเมืองชั้นในมากนักและมีการเข้าถึงตัวเมืองที่สะดวก

ในส่วนของโซนพระราม 3 – ราษฎร์บูรณะ เรียกได้ว่าเป็นโซนที่น่าจับตามองมากที่สุดในช่วงนี้ เนื่องจากที่ดินและราคาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่บริเวณนี้ยังเป็นราคาที่จับต้องได้ เมื่อเทียบกับโซนอื่นๆ และที่สำคัญยังได้รับวิวว่าเป็นวิว Riverfront ติดริมแม่น้ำที่เห็นทั้งวิวเมือง (City view) และยังมีวิวพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ (Rest view) อย่างบางกระเจ้าที่อยู่ทางทิศตะวันออกของย่านราษฎร์บูรณะอีกด้วย

 

สนับสนุนการอยู่อาศัยด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและแหล่งงานที่พร้อมให้เราเติบโต

นอกจากการเชื่อมต่อเมืองที่สะดวกสบายแล้ว สิ่งหนึ่งที่ย่านราษฎร์บูรณะพร้อมโอบกอดและซัพพอร์ตเราคือการที่ตัวย่านมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะโรงเรียน โรงพยาบาล ศาสนสถาน รวมถึงละแวกใกล้เคียงก็มีดิสเคาน์สโตร์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโฮมโปร พระราม 3 Terminal 21 พระราม 3 Sena Fest จนถึง ICONSIAM ให้ได้ไปเดินเล่นและจับจ่ายใช้สอย

จุดสำคัญอีกอย่างของราษฎร์บูรณะคือความเป็นแหล่งการค้าแบบธุรกิจรายย่อย มีอาคารพาณิชย์เรียงรายตามถนน และมีคลังสินค้าขนาดเล็กอยู่ร่วมไปกับชุมชน โดยมีสำนักงานใหญ่ธนาคารกสิกรไทย เป็นหนึ่งในแหล่งงานขนาดใหญ่ของย่านที่ทำให้ย่านราษฎร์บูรณะเติบโตขึ้น การจ้างงาน การขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในย่านจึงมีทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่เกิดเป็นการหมุนเวียนรายได้ทั้งในระดับย่านและชุมชน

 

วาดชีวิตและสไตล์การพักอาศัยผ่านผืนน้ำและท้องฟ้ากับ Noble Aqua Riverfront Ratburana

เมื่อย่านราษฎร์บูรณะเป็นย่านที่ติดริมน้ำ มีความเงียบสงบไม่วุ่นวาย แถมยังเข้าถึงและเชื่อมต่อกับเนื้อเมืองชั้นในได้อย่างสะดวก การมีพื้นที่พักอาศัยที่อยู่ในย่านแห่งนี้ตอบโจทย์ความต้องการ โดยในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้รู้จักกับโครงการ ‘Noble Aqua Riverfront Ratburana’ โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Luxury ติดริมน้ำเจ้าพระยาจากโนเบิล ซึ่งในรอบหลายปีที่ผ่านมาเราก็ไม่ค่อยได้เห็นโครงการพักอาศัยรูปแบบนี้ในพื้นที่ที่เราสามารถสัมผัสกับวิวโค้งน้ำกันสักเท่าไรนัก

Noble Aqua Riverfront Ratburana นั้นถือเป็นโครงการรูปแบบใหม่ควบคู่ไปกับ Noble Terra ในคอลเล็กชั่นเดียวกัน ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างอัตลักษณ์ที่แตกต่าง ทั้งในแง่ความสวยงามของตัวอาคารภายนอก และฟังก์ชันพิเศษภายในที่ออกแบบพิเศษเฉพาะตัวของแต่ละโครงการและไม่สามารถพบเห็นได้จากโครงการอื่นๆ ความพิเศษของ Noble Aqua นี้ยังได้ยึดโยงบริบทของย่านเข้ากับการพัฒนารูปแบบที่อยู่อาศัย นั่นก็คือการพัฒนา ‘บ้านริมน้ำ’ ซึ่งเป็นจุดเด่นของย่าน ให้เราได้สัมผัสกับธรรมชาติผ่านทิวทัศน์ริมแม่น้ำอย่างสมดุลและเท่าเทียมกัน ไปจนถึงให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งกับวิถีริมน้ำ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Oneness with the river’

การพัฒนาและออกแบบนี้ได้มุ่งเน้นไปที่ตัวผัง ถนน ส่วนกลางไปจนถึงการออกแบบตัวบ้านให้ได้รับเสน่ห์ของวิวแม่น้ำอย่างทั่วถึง ซึ่งเสน่ห์ของมันคือการที่เราจะได้รับวิวทิวทัศน์ รับลม แสงแดด ได้กลิ่นไออ่อนๆ ของดินและน้ำ ช่วยเสริมสร้างความมีชีวิตชีวาในการอยู่อาศัย พลังงานบวก ตลอดจนต่อยอดเป็นกิจกรรมที่เกิดขึ้นกับครอบครัวได้ในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งลองคิดดูว่าหากเราได้เอนกายในตัวบ้านพร้อมรับลมชมวิวพระอาทิตย์ตก มีเสียงคลื่นน้ำกระทบเบาๆ มันจะดีสักแค่ไหน

โครงการ Noble Aqua นี้จะเป็นโครงการแรกในกรุงเทพฯ ที่จะช่วยสานฝันให้กับคนที่อยากมีบ้านติดริมแม่นํ้ำ ผ่านการค้นหาแนวทางการออกแบบใหม่และเฉพาะตัวที่จะนํามาสร้างสรรค์รูปแบบของบ้านให้สมบูรณ์แบบที่สุด

 

โอบรับทัศนียภาพริมน้ำได้ทุกมุมมองจาก Iconic Riverfront Villa

ครั้งนี้โนเบิลได้ผู้ออกแบบอย่าง IAW และ Landscape Tectonix เข้ามาร่วมออกแบบความเป็น Riverfront แบบพิเศษที่จะช่วยให้บ้านของเราไม่ถูกลดทอนบรรยากาศของการเป็นที่พักอาศัยริมน้ำไป ผ่านคีย์เวิร์ดและแนวทางการออกแบบสำคัญ ก็คือ View, Visual, Void และ Volumn

อย่างแรก ‘View – ทัศนียภาพ’ คือการออกแบบผังและตัวบ้านทุกหลังให้สามารถมองเห็นแม่น้ำได้อย่างเต็มที่ ให้เราได้เป็นส่วนนึงกับธรรมชาติและรับเอาพลังงานดีมาใช้ในการอยู่อาศัย

‘Visual – การมองเห็น’ การให้ความสําคัญมุมมองจากภายในบ้านมองผ่านออกไปสู่ภายนอก โดยสร้างลําดับของการใช้งานสัดส่วนภายในบ้าน กําหนดให้ห้องที่จะเป็นห้องหลักคือ ห้องรับแขกและห้องทานข้าวขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 และ 3 เพื่อเปิดมุมมองให้เรามองเห็นแม่น้ำได้อย่างเต็มที่

‘Void – ช่องว่าง’ เป็นการออกแบบให้บ้านทุกหลังมีช่องว่างระหว่างกัน และวางช่องเปิดปิดของบ้านระหว่างหลังให้ไม่ตรงกันเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวให้ได้มากที่สุดและไม่เกิดความอึดอัดภายในโครงการ ตลอดจนให้ลมและแสงได้เข้ามาสู่ตัวบ้านได้ รวมถึงช่องว่างเหล่านั้นยังกลายมาเป็นพื้นที่สีเขียวที่สร้างทัศนียภาพที่ดีให้กับตัวบ้าน

และสุดท้าย ‘Volume – ปริมาณ’ คือการลดปริมาณอาคารด้วยการสร้างรูปทรงจั่ว เพื่อให้ภาพรวมของโครงการไม่หนาแน่นเกินไป แถมยังสอดคล้องกับแนวความคิดอื่นๆ ที่ต้องการให้เราได้โอบรับเอาทัศนียภาพริมน้ำได้จากทุกมุม

 

เปิดประสบการณ์การอยู่อาศัยสุดพิเศษ ด้วยเอกลักษณ์ของโครงการและตัวบ้านที่เฉพาะตัว

Noble Aqua Riverfront Ratburana นี้นอกจากจะมีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้เราได้สัมผัสกับแม่น้ำอย่างใกล้ชิดจากทุกมุมมองแล้ว เอกลักษณ์อีกอย่างของโครงการคือการมอบประสบการณ์จากตัวบ้านและส่วนกลางที่แตกต่าง ผ่านการอยู่ร่วมกันในสังคมที่คัดสรรแล้ว มีความปลอดภัย รวมถึงสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมภายในโครงการที่ให้ผู้อยู่อาศัยได้รับประสบการณ์การอยู่อาศัยที่สะดวกสบายและยั่งยืน

โครงการ Noble Aqua ยังถือว่าเป็นโครงการที่มีความกว้างขวางทั้งตัวผังโครงการซึ่งมีขนาดถึง ประมาณ 15 ไร่ ไปจนถึงตัวบ้าน ซึ่งก็มีหลากหลายกว่า 5 รูปแบบ รวมแล้วทั้งหมด 53 ยูนิต โดยรูปลักษณะของตัวบ้านจะเป็นลักษณะ Modern Contemporary 3 ชั้น เน้นรูปทรงของหลังคาเป็นทรงจั่วเพื่อลดทอนความเป็นทรงสี่เหลี่ยมและสร้างลักษณะเฉพาะให้เด่นชัดยิ่งขึ้น การเปิดช่องกระจกอย่างเต็มที่ เพื่อเน้นการมองเห็นแม่นํ้า ซึ่งก็คือบริบทสำคัญของย่านที่นำมาซึ่งการออกแบบ ตลอดจนมีการเลือกใช้วัสดุที่เป็นลักษณะของหินธรรมชาติมากรุผนัง เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

นอกจากตัวบ้านแล้ว Clubhouse ก็ถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญอีกอย่างหนึ่งของโครงการ เพราะเป็นโครงการที่มี Clubhouse ถึง 2 ส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นส่วน Garden Clubhouse ที่ติดกับสวนเขียวของโครงการที่ทำให้เราได้เห็นวิวแม่น้ำสุดลูกหูลูกตาและ Riverside Clubhouse ที่อยู่ติดริมแม่นํ้าแบบไม่เคยเห็นที่ไหน ให้เราได้ผ่อนคลายกับบรรยกาศของโค้งน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งรูปแบบของตัวอาคาร Clubhouse นี้ ก็ได้มีการดีไซน์โดยใช้สามเหลี่ยมราบจรดพื้นคล้ายพีรามิด จากรูปทรงนี้ทำให้ตัว Clubhouse สามารถใช้แสดงเป็น Landmark ของโครงการที่สามารถมองเห็นจากสะพานข้ามแม่น้ำได้อย่างชัดเจนและเป็นที่จดจํา

Noble Aqua Riverfront Ratburana จะพร้อมเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกันยายนนี้ ลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม และเข้าชมโครงการก่อนใครได้ที่ : https://bit.ly/44TDmhY

 

 

Share :